วงจรปิดจับภาพ ลูกจ้างแสบ แอบขโมยของนายจ้างขาย เดือนเดียวสูญเงินกว่าครึ่งแสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 5 ก พ. 2567 พ.ต.ท.จีระพัฒน์ เนื่องเหมรัช สว.สอบสวน สภ.บำเหน็จณรงค์ ได้รับแจ้งจากนายวัง ภูมิชัยศักดิ์ อายุ 36 ปี หมู่ 15 ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ว่าสิ่งของเครื่องใช้ ของตนและของพ่อสูญหายไปหลายอย่างโดยเฉพาะเลื่อยยนต์ เครื่องตัดหญ้า เลื่อยวงเดือน เครื่องตัดหญ้า ล้อแม็กรถยนต์ และอื่นๆอีกหลายรายการที่วางอยู่ภายในบ้านสูญหายไป จากบ้านตามที่อยู่ดังกล่าว หลังรับจ้างจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.เวชบุตร ชมบุญ ผกก.สภ.บำเหน็จณรงค์ทราบพร้อมสั่งการให้ พ.ต.ท พัลลภ ม่วงมณี รอง.ผกก.สืบสวน พ.ต.ท.วนาสันต์ ประสพหมู่ สว.สส.และร.ต.อ สมบูรณ์ แก้วชนะ รอง.สว.จร.สภ.บำเหน็จณรงค์นำกำลังชุดสืบสวนออกได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง และตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเทศบาลตำบลบ้านชวนฯ จึงทราบว่าเวลาประมาณ 16.38 น.ของวันที่ 1 ก.พ. 2567 ได้มี นายสมชายหรือชาย กิ่งพุดชา เป็นอย่างดีเพราะเป็นลูกจ้างของผู้เสียหาย ได้นำทรัพย์ขึ้นรถจักรยานยนต์ออกไปบริเวณถนนหน้าวัดบึงชวน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายสมชายหรือขายฯ มาสอบถามจากการสอบถามนายสมชายหรือชายฯ ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นคนขโมยทรัพย์สินดังกล่าวจริง นายสมชายหรือชายฯ ได้ให้การกับเจ้าหน้าตำรวจว่าตนเองได้นำสิ่งของเครื่องใช้เช่น เครื่องตัดหญ้า ตู้เชื่อม เลื่อยวงเดือน และอื่นๆนำไปจำนำตามร้านรับฝากหรือรับจำนำในพื้นที่ ส่วนล้อแม็กและอื่นๆนำไปขายร้านรับซื้อของเก่า เงินที่ได้นำไปเที่ยวเตร่และใช้ในครอบครัว

ขณะที่นายนพ ภูมิชัยศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้เสียได้ออกมายอบรับว่าตนเองสงสารตัวผู้ก่อเหตุซึ่งก่อนนี้ได้มาของานทำ จึงให้มาทำงานงานกับตนแต่ก็ไม่คิดว่าคนที่เราสงสารจะมาขโมยสิ่งของเราไปขายเสียเอง พฤติกรรม ของลูกจ้างรายนี้ จากข้อมมูลของเพื่อนๆที่รู้จักกันเล่าว่าจะชอบแอบขโมยของไปขายเช่นนี้ตลอดมามีผู้เสียหายหลายคนแต่ไม่ได้เข้าแจ้งความ จึงอยากฝากเตือนใครที่จะรับคนเข้าทำงานให้ตรวจสอบอย่างละเอียดจะได้ไม่เกิดเหตุเช่นนี้อีก และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ช่วยตามจับผู้ก่อเหตุได้โดยเร็วก่อนที่จะไปก่อเหตุซ้ำอีก

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกฎหมายให้ นายสมชายหรือชาย กิ่งพุดชา ทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาดีแล้ว ได้ให้ถ้อยคำรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าวที่เป็นของกลางในคดี และควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ. บำเหน็จณรงค์ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.