ป.ป.ช.อยุธยา ดึงเครือข่ายสานต่อปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต

วันที่ (19 มี.ค. 68) ที่โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อยุธยา  นายปริญญา  วิกุลศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดโครงการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต กิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการปักหมุดแผนที่พื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริตในพื้นที่จังหวัด ครั้งที่ 1

นายปริญญา  วิกุลศิริรัตน์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการปักหมุดแผนที่พื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริตในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมกันกำหนดหมุด แผนที่ความเสี่ยงต่อการทุจริตในจังหวัด และลงพื้นที่ตามหมุดฯ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริต โดยจะรวบรวมเป็นฐานข้อมูลทั้ง 76 จังหวัด ที่มีการจัดเรียงและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ป้องกันการทุจริต เจ้าหน้าที่ปราบปรามการทุจริต รวมถึง ภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ในการป้องกันการทุจริตในอนาคต และเชื่อว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้  ทุกคนจะเป็นพลังป้องกันการทุจริตไม่สนับสนุนการทุจริตทุกรูปแบบ และขยายผลไปสู่การสร้างฐานข้อมูลเพื่อใช้ต่อต้านการทุจริตในระดับจังหวัด และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต

ด้านนางสาวภัคศรัณย์  โอสถสงเคราะห์  หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มต้นดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นโครงการลักษณะกลางน้ำ ที่เป็นโครงการในเชิงการเก็บรวบรวมข้อมูลและแสวงหาแนวทางการต่อต้านการทุจริตจากข้อมูลจริงในพื้นที่ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ ด้วยการใช้หลักการประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) และการคาดการณ์อนาคต (Scenario Analysis) โดยกลุ่มผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลคือ เครือข่ายชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตในทุกจังหวัด ซึ่งเป็นผู้ทำงานใกล้ชิดกับสำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่และผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ความเสี่ยง คาดการณ์อนาคต ร่วมกัน และติดตามผลความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหมุดความเสี่ยงให้มีความเสี่ยงลดลง หรือหากแก้ไขไม่สำเร็จก็นำไปสู่การดำเนินคดีในที่สุด

สำหรับโครงการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต ได้หัวข้อ “ปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะและวิธีการแก้ไขด้วยการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.)”  มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการบุกรุกที่สาธารณะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยดึงเครือข่ายภาคประชาชนกว่า 100 คนเข้าร่วม  เพื่อร่วมกันวิเคราะห์และปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริตในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหาแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อลดความเสี่ยงต่อไป

อย่างไรก็ตาม การประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว ได้รับความรู้จากนายสมชาย ประกอบชาติ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อย่างมาก เกี่ยวกับปัญหาการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์และวิธีแก้ไขด้วยการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล) เช่น สาธารณสมบัติของแผ่นดิน การเกิดขึ้นของที่ดินสาธารณประโยชน์ หนังสือกรรมสิทธิ์ โดยนายสมชายฯย้ำว่า ทั้งในอดีตและปัจจุบันมีผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะจำนวนมาก แต่จะทำอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ไม่ปล่อยปละละเลย และไม่ให้มีการบุกรุกเพิ่มอีก

เกียรติยศ ศรีสกุล ผอ.ข่าวเด่นทั่วไทยTOPNEWS ภาคกลาง