สพฐ. หนุนเขตพื้นที่ เสริมความ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” สพฐ. Summer camp 2025 สร้างเด็กไทย รองรับทักษะแห่งอนาคต .

วันที่ 20 มีนาคม 2568 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมเด็กไทย “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” สพฐ. Summer Camp 2025 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี (สพม.กาญจนบุรี) ณ โรงเรียนวิสุทธรังษี จ.กาญจนบุรี โดยมี นายไพชยา พิมพ์สาร ผอ.สพม.กาญจนบุรี กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนวิสุทธรังษี และบุคลากรของ สพม.กาญจนบุรี จำนวน 106 คน เข้าร่วมกิจกรรมนางเกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ให้ความสำคัญการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ซึ่งตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โครงการนี้จึงถูกจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยให้มี 3 ความฉลาด ได้แก่ ความฉลาดรู้ (Literacy) ส่งเสริมทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางวิชาการของนักเรียนให้ทัดเทียมนานาชาติ ความฉลาดคิด (Critical Thinking) ส่งเสริมกระบวนการคิด เชิงวิเคราะห์ การแก้ปัญหาและการคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้เยาวชนสามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ยุคดิจิทัล ความฉลาดทำ (Action-Based Learning) สนับสนุนการลงมือปฏิบัติจริง ฝึกทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาโครงการหรือผลงานที่เป็นรูปธรรม เพื่อเตรียมความพร้อมให้เยาวชนก้าวทันยุคแห่งข้อมูลและเทคโนโลยี สำหรับกิจกรรมสำคัญของโครงการนี้ ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ ผ่านกิจกรรม “วิทยาศาสตร์พลังสิบ” – ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนากระบวนการคิดเชิงเหตุผล กิจกรรมที่ 2 “เพิ่มพูน” สมรรถนะความฉลาดรู้ – ให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะการคิดผ่านชุดกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างการคิดวิเคราะห์ และกิจกรรมที่ 3″คอมพิวเตอร์หรรษา พาสนุก” – ฝึกทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การใช้แป้นคีย์บอร์ด เม้าส์ และระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วในการใช่เทคโนโลยีให้กับผู้เรียน

นางเกศทิพย์ กล่าวต่อไปว่า ตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ถือเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะทำให้เกิดการเรียนดีมีความสุขได้ โดยอาศัยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของครู ผู้บริหาร และได้รับการชี้แนะจากศึกษานิเทศก์เป็นพี่เลี้ยง และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทีม ปลดล็อกรั้วโรงเรียนเพื่อให้มีครูที่ดีสำหรับนักเรียนที่อยู่ที่ไหนก็ได้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างโอกาสให้กับนักเรียน ได้รับการเติมเต็มทั้งนักเรียนและครู ซึ่งจากกิจกรรมในวันนี้ คำว่า “ฉลาด” คือ สติ+ปัญญา ไม่ได้มีเพียงปัญญาแต่เรายังมีสติทำให้ไม่ประมาท จึงกลายเป็นความเก่งที่พร้อม มีความรอบคอบ และใช้ปัญญาในสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้น ในการ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” ต้องล้อมรอบในบรรยากาศที่เรียนและมีความสุข ครูผู้อยู่ใกล้ชิดกับนักเรียน ต้องรู้จักและดูได้ว่านักเรียนมีความสุขหรือไม่ โดยครูผู้สอนต้องมีการพูดคุยกันแบบ Professional Learning Community (PLC) เป็นชุมชนที่มีการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เติมเต็มให้กับเด็กเป็นรายบุคคล ตรงตามความต้องการของเด็กแต่ละคน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักเรียนอย่างแท้จริง

“ขอฝากผู้บริหารและคุณครูในเรื่องของการพัฒนาตนเอง อ่านทุกวัน เรียนรู้ทุกเรื่อง จับประเด็นต่าง ๆ มาถ่ายทอดได้ รวมถึงการคิด วิเคราะห์ในเรื่องที่สำคัญ รวมถึงอยากให้ครูทุกคนได้อบรมแนวทางการสร้างข้อสอบฯ เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้คำถามในชีวิตประจำวันของทุกคน เพื่อให้ครูนำไปใช้ได้จริง และสำหรับผู้บริหาร คือ ผู้สร้าง สร้างคน สร้างระบบงาน และเติมเต็มกำลังใจให้กับผู้ร่วมงาน เพื่อการทำงานอย่างมีความสุขต่อไป สำหรับน้องๆ นักเรียน ขอฝากให้เรียนรู้ฝึกการทำงานเป็นทีม Skill ในอนาคตต้องทำงานเป็นทีมได้ สร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง เอื้ออาทร แบ่งปันซึ่งกันและกัน เป็นตัวของตัวเองโดยมีวินัยเป็นตัวกำกับ จะทำให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในทุก ๆ สิ่ง และขอให้นักเรียนทุกคนเดินตามความฝันของตนเอง โดยมีผู้ใหญ่ใจดีคอยเติมฝันและให้โอกาส ขอให้ทุกคนทำให้เต็มที่ในทุกเรื่องเพราะสิ่งเหล่านี้จะติดตัวเราทุกคนตลอดไป และขอเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คนต่อไป” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว

.

สำหรับค่ายแห่งนี้ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ ในรูปแบบกิจกรรมฐาน ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 ฐานวิทยาศาสตร์พลังสิบ เพื่อให้นักเรียนได้มีการคิด วิเคราะห์ จับประเด็นต่าง ๆ ให้เกิดออกมาเป็นรูปแบบของการทดลอง ตรงกับบริบทของโรงเรียน สำหรับพื้นที่จังหวัดอ่างทอง คือบริบทในเรื่องของน้ำท่วม เด็กสามารถที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และทำงานเป็นกลุ่ม ส่วนกิจกรรมที่ 2 เด็กได้ฝึกทำข้อสอบโดเมนต่าง ๆ เป็นการเตรียมพร้อมการคิด วิเคราะห์ ผ่านแบบฝึกที่เพิ่มพูนสมรรถนะ เป็นฐานที่มีครูผู้สอนอยู่ประจำฐานและชี้นำในสิ่งที่เด็กทุกคนต้องคิด วิเคราะห์ รวมถึงสื่อสารออกมาได้อย่างเข้าใจ ใบงานมีคุณภาพและการทำงานเป็นทีม จะทำให้ Future Skill ของเด็กเกิดขึ้นที่ตัวนักเรียนเอง และกิจกรรมที่ 3 การเข้าถึงการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด ส่วนใหญ่แล้วโรงเรียนที่ยังมีความไม่พร้อมในเรื่องของคอมพิวเตอร์แต่ได้รับการเติมเต็มจาก ผอ.สพท. และรอง ผอ.สพท. และทีมศึกษานิเทศก์ที่เข้มแข็งและครูทั้งโรงเรียนที่ทำให้เกิดค่ายชุมชนแห่งนี้ และเติมเต็มส่วนที่เป็นจุดอ่อนของนักเรียน ทำให้เห็นความสนุก ความหรรษาของนักเรียนผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยกิจกรรมต่างๆ ที่ให้นักเรียนได้ฝึกคิด ฝึกทำ Skill เหล่านี้จะเป็นพาหนะที่ทำให้นักเรียนได้หาคำตอบต่อไปในอนาคต และเกิดประโยชน์กับตัวนักเรียนเอง เห็นได้ชัดว่าค่ายฯ แห่งนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม เป็นไปตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” และทำให้นักเรียน “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” ได้อย่างแท้จริงกีรติ ก้อนทองคำ จ.กาญจนบุรี