HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

หนุ่มต่างชาติ แจ้งความถูกโกง หลังใช้เงินซื้อคอนโดในภูเก็ตสูนเงินกว่า 5 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (3  ส.ค.) ที่ สถานีตำรวจภูธรกมลา จ.ภูเก็ต กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ภายใต้การกำกับดูแลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับผู้เสียหายชาวออสเตรเลีย แถลงข่าวความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการซื้อคอนโดมิเนียมในโครงการ “เดอะพีค” ของ บริษัท กะตะ บีช จำกัด พร้อมทั้งได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน กับ บริษัท กะตะ บีช และผู้เกี่ยวข้อง โดยมี พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกมลา รับเรื่อง และดำเนินการไปตามกรอบของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เนื่องจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ) ภายใต้การกำกับดูแลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รับคำร้องทุกข์และร้องเรียนเพื่อการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการโครงการอาคารชุดจากผู้เสียหายชาวออสเตรเลีย ที่นำที่ดินไม่มีโฉนดมาขายให้แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากแต่ไม่สามารถก่อสร้างได้สำเร็จ เนื่องจากการออกใบอนุญาตก่อสร้างไม่ชอบด้วยกฎหมายมาตั้งแต่เริ่ม เพราะการประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุด จะต้องสร้างอาคารบนที่ดินมีโฉนดเท่านั้น เอกสารสิทธิ์ประเภทอื่นไม่สามารถนำมาซึ่งที่ดินเพื่อประกอบโครงการจัดสรรเป็นอาคารชุดเพื่อจำหน่ายได้ จึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้รับเงินจอง เงินทำสัญญาและรับชำระราคาค่าห้องชุดมูลค่าหลายล้านบาทต่อราย ซึ่งโครงการ เดอะพีค ของ บริษัท กะตะ บีช จำกัด ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ทำให้ไม่สามารถก่อสร้างโครงการต่อได้ จึงเสนอให้ผู้เสียหายไปใช้สิทธิซื้อห้องชุดในโครงการอื่น ซึ่งอีกหลายปีต่อมาก็มีการแจ้งว่าไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จตามกำหนด และยังส่งหนังสือแจ้งผู้เสียหายให้ไปติดตามเงินคืนกับบริษัทผู้ดำเนินการกับบริษัท กะตะ บีช เอง

 

ทางผู้เสียหาย ได้ดำเนินการฟ้องทางแพ่ง ทางตัวแทนของบริษัทกะตะ บีช จึงได้มาขอไกล่เกลี่ยผ่อนชำระ แต่เมื่อถึงกำหนดงวดชำระเงินกลับไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใด ผู้เสียหายได้ทำการสืบทรัพย์และได้พบว่า บริษัทฯ ไม่มีหลักทรัพย์ใดจะเพียงพอต่อการชำระหนี้แม้แต่เพียงรายเดียว จึงมีความเห็นว่าเป็นการกระทำเพื่อหลอกลวงให้หลงเชื่อว่าจะมาชำระหนี้คืนให้ แต่มีเจตนาไม่รับผิดชอบ อีกทั้งตัวแทนของบริษัทฯ ที่ได้เสนอให้ย้ายสิทธิ์การซื้อห้องชุดไปโครงการอื่น กลับชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการเดอะพีค ของ บริษัท กะตะ บีช แต่อย่างใด ตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจควบคุมทั้งแบบแห่งสัญญา และโฆษณาอย่างเคร่งครัด และการขายอสังหาริมทรัพย์ในโครงการจัดสรรที่ไม่สามารถส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ได้ตามสัญญา ถือเป็นความผิดบกพร่องของผู้ประกอบการที่ต้องมีความรับผิดชอบโดยตรงต่อผู้บริโภค ประกอบกับหากมีพฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกง หรือ อุบายหลอกลวงฉ้อฉลด้วย ก็จะเข้าข่ายกระทำความผิดอาญาต่อผู้เสียหายเพิ่มอีกด้วย ผู้เสียหายจึงต้องได้รับการชดใช้เยียวยาในความเสียหายไม่เลือกปฎิบัติต่อสัญชาติของผู้บริโภคภายใต้กฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย  การกระทำดังกล่าวของผู้ประกอบการส่งผลร้ายต่อชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต และประเทศไทย ต่อสายตาชาวต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง  คดีดังกล่าว ทางสำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้แนะนำการดำเนินคดีแก่ผู้ประกอบการรายดังกล่าวตามเขตอำนาจของตำรวจภูธรกมลา จังหวัดภูเก็ต หากท่านใดได้รับผลกระทบและเป็นผู้เสียหายจากโครงการดังกล่าวขอให้ท่านได้เข้ามาแจ้งต่อสถานีตำรวจภูธร กมลา เพื่อการขยายผลการดำเนินคดีให้แก่ผู้เสียหายซึ่งคาดว่ามีหลายรายด้วยกัน เพื่อการอำนวยความเป็นธรรมให้แก่ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์อย่างถูกกฎหมายในจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย ว่าบุคคลจะได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมายเสมอภาคกันทุกสัญชาติ

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียหาย ชาวออสเตรเลีย รายดังกล่าว ได้ซื้อห้องชุด ของโครงการ เดอะพีค ในราคาประมาณ 6 ล้านบาท และได้ชำระเงินค่าห้องดังกล่าวไปแล้วกว่า 5 ล้านบาท ด้าน พ.ต.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทาง สภ.กมลา ได้รับการประสานจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ซึ่งความเสียหายนี้ ทาง ปคบ.ได้ดำเนินกาคในเบื้องต้นไปแล้ว และได้ส่งเรื่องดังกล่าวต่อมายัง สภ.กมลา และในวันนี้ ทาง สภ.กมลา ได้รับแจ้งความเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว และจะดำเนินการสอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป  ในเบื้องต้นนั้นทราบว่า ผู้เสียหายรายดังกล่าวได้ซื้อห้องชุดของบริษัทดังกล่าวไว้ แต่ทางบริษัทเจ้าของโครงการไม่สามารถส่งมอบห้องชุดให้กับผู้เสียหายได้ ทางผู้เสียหายจึงได้ฟ้องศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ศาลได้ตัดสินให้ผู้เสียหายเป็นฝ่ายชนะคดี แต่ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากบริษัทเจ้าของโครงการแต่อย่างใด จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงในวันนี้

จิระชัย เกษมพิมลพร /จ.ภูเก็ต