ระอุโซเชียล สาวจอดรถบังหน้าร้านโดนน็อตสกรูเจาะล้อ

สาวสุดงง จอดรถบังหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว เพื่อเดินข้ามฝั่งไปทำธุระ กลับออกมาขับรถออกจากร้านพบว่ายางถูกน็อตสกรูเจาะ จึงนำเรื่องนี้เตือนภัยในโลกโซเชียน ก่อนจะมีคนที่เคยโดนในลักษณะใกล้เคียงกับตนเข้ามาคอมเม้นและแชร์ออกไป ทำให้เจ้าของร้านไม่พอใจ เข้ามาตอบข้อความเชิงคุกคาม ตนจึงรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยเดินทางเข้าแจ้งความ เผยเสียความรู้สึกมาก เพราะตนเองก็เคยเป็นลูกค้าที่เข้าไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้

จากเหตุการณ์ที่เพจ “ท็อป เรารักแปดริ้ว” ได้นำเสนอเรื่องราวของสาวผู้เสียหายที่ได้จอดรถบังหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งริมถนนศรีโสธรตัดใหม่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา หลังทำธุระเสร็จขึ้นรถออกไป กับพบว่าที่ล้อรถ มีฝาชาเขียวติดกับน็อตสกรูเจาะทิ่มเข้าไปที่ยางรถ โดยระบุข้อความว่า “สาวสุดเซ็งจอดรถบนถนนหลวงทำธุระหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวพักเดียวโดนตะปูเกลียวเจาะยางทางเพจได้รับเรื่องร้องเรียนจากหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ขับรถมาจอดบนถนนศรีโสธรตัดใหม่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งที่ตั้งร้านขายของอยู่บนทางเท้าจะไปทำธุระฝั่งตรงข้ามถนน ตอนจอดเล็งแล้วว่ารถไม่ได้ไปขวางหน้าตู้ก๋วยเตี๋ยวจนไม่สามารถค้าขายได้ ตอนลงจากรถผู้หญิงในร้านเดินมาบอกว่าห้ามจอดตรงนี้ ที่ตรงนี้สำหรับลูกค้าร้านก๋วยเตี๋ยวของเค้าเท่านั้น หญิงสาวจึงได้แต่บอกว่าไปฝั่งตรงข้ามแปบเดียวจอดไม่นาน ขากลับมาที่รถ คนในร้านก๋วยเตี๋ยวมองกลับมาที่เจ้าของรถแบบไม่เป็นมิตรนัก เธอจึงรีบเลื่อนรถออกมา ปรากฏว่าที่ล้อหลังซ้ายมีเสียงผิดแปลกไปจากตอนมา มีเสียงเหมือนมีวัตถุบางอย่างเจาะติดรถมาอยู่ เมื่อถึงบ้านจอดรถลงมาดูพบฝาขวดน้ำชาเขียวถูกเจาะด้วยตะปูเกลียวเจาะฝังมาที่ล้อหลังซ้าย ซึ่งเธอมั่นใจว่าก่อนหน้าที่จะจอดรถหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าวไม่มีอะไรเจาะฝังล้อมาแน่ๆ เพราะถ้ามีต้องได้ยินเสียงแล้ว ตอนนี้เธอได้ไปแจ้งความไว้แล้ว และเสียใจที่เธอก็เคยเป็นลูกค้าร้านดังกล่าว ทำไมถึงร้านจึงได้กีดกันที่จอดรถถึงขั้นต้องมาทำอะไรแบบนี้ ซึ่งเป็นอันตรายมากๆถ้าขับรถไปแล้วยางระเบิดกลางทาง”

ล่าสุดช่วงสายวันนี้ ( 26 มี.ค.66 ) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับผู้เสียหายทราบชื่อต่อมคือ นางพรพรรณ ดอนพนัส อายุ 40 ปี ชาวตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา โดยเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนเองได้ขับรถเก๋งไปจอด บริเวณหน้าร้านเจ้านายบะหมี่แปดริ้ว เพื่อจะไปทำธุระยังฝั่งตรงข้าม แต่สังเกตดูแล้วก็ไม่ได้บังหน้าร้านเสียทีเดียว จากนั้นได้มีผู้หญิงภายในร้านก๋วยเตี๋ยว เดินมาหาตนที่รถ และบอกกับตนว่า จอดตรงนี้ไม่ได้ จอดได้เฉพาะลูกค้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ตนเองเลยแจ้งกลับไปว่า ขอไปทำธุระเดี๋ยวกลับมา จากนั้นตนเองก็เดินข้ามถนนไป และหลังจากทำธุระเสร็จประมาณครึ่งชั่วโมง ตนเองเดินกลับมาที่รถ สังเกตเห็นผู้หญิงภายในร้านมองตนแบบสายตาไม่เป็นมิตร ตนเองก็ไม่ได้สนใจจึงขึ้นรถและขับออกมา เมื่อขับออกมาก็พบความผิดปกติ เมื่อมีเสียงเหมือนพลาสติกหรืออะไรสักอย่างกระทบกับถนน ตนเองรู้สึกเหมือนไม่ปลอดภัยจึงไม่กล้าลงมาดู จึงขับออกมาจนถึงบ้านและให้คนที่บ้านช่วยดู ก็พบว่ามีฝาชาเขียวเจาะน็อตสกรู เจาะเข้ามาที่ยางหลังฝั่งซ้ายของรถตน นางพรพรรณ เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ทีแรกตนเองนำเรื่องนี้เตือนภัยเฉพาะกับเพื่อนๆ ที่ทำงานว่าถ้าไปจอดรถบริเวณนั้นให้ระมัดระวัง ก่อนจะมีการเตือนภัยในโลกโซเชียนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ตนเองก็ไม่ได้ระบุร้าน เพียงบอกเล่าเรื่องราวและพิกัดใกล้เคียงแบบไม่ได้ละเอียด จากนั้นก็มีผู้ที่ประสบเหตุเหมือนแบบตนเองและใกล้เคียง ได้แชร์โพสออกไปเป็นจำนวนมาก จากนั้นเจ้าของร้านดังกล่าวได้เข้าไปเม้นท์ถ้อยคำที่คุกคาม ตนเองจึงรู้สึกไม่ปลอดภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เสียความรู้สึกมาก ตนเองก็เคยเป็นลูกค้า เคยไปนั่งกินที่ร้านบะหมี่แห่งนี้

ทั้งนี้ตนเองอยากฝากเตือนเหตุการณ์ในลักษณะนี้ว่า มันเป็นการการะที่อันตราย ตนเองเป็นคนที่ขับรถเร็ว ถ้าเราไม่สังเกตและขับไปด้วยความเร็ว หากยางระเบิดตนเองไม่สามารถควบคุมรถได้ หากเลวร้ายไปกว่านั้นก็อาจจะไปชนรถของผู้ร่วมทางบนถนน อยากให้ผู้ทำคิดและตระหนักอีกนิดนึงว่ามันจะส่งผลกระทบต่อคนอื่น ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและอาจจะถึงชีวิตได้ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจยังร้านดังกล่าวพบว่า วันนี้ไม่ได้มีการตั้งร้านขายของแต่อย่างใด โดยมีการนำผ้าใบแสลมสีดำมาคลุมร้านไว้

ภาพ/ข่าว ก้องเกียรติ พุทธิรังสิมาภรณ์ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา