เกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชังแม่น้ำโขงโอดครวญ หลังน้ำสูงมาเร็ว ปลาน็อกตายสูญเงินกว่า 4 แสนบาท

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 10 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการเกิดฝนตกหนักที่ สปป.ลาว ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำโขงที่ไหลผ่านประเทศไทย 6 จังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่แม่น้ำโขงตอนล่าง ระดับน้ำสูงมาตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา น้ำเอ่อล้นตลิ่ง จนนายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ออกแจ้งเตือนส่วนราชกการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและข้าราชการประชาชน  เตรียม ตลอด 24 ชม. รับมือกับสถานการณ์น้ำโขงล้นตลิ่ง ที่ระดับน้ำสูงขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงวันที่ 10 – 15 สิงหาคม นี้ ล่าสุดเช้าวันนี้ศูนย์สำรวจอุทกวิทยา ต.เชียงคาน อ. เชียงคาน ตรวจวัดได้สูง 13.27 เมตร ยังคงทำให้ร้านค้าริมแม่น้ำโขงอพยพหนีน้ำต่อเนื่อง ตลอดจนปลาในกระชังน็อกตายสูญเงินกว่า 4 แสนบาท/ราย

 

 

นายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลยและคณะลงพื้นที่ตรวจระดับน้ำโขง อ.เชียงคาน ปลากระชัง และตรวจท่าทรายน้ำโขงที่มีจำนวนนับ 10 ราย ที่บ้านคกมาด หมู่ 4 ต.เชียงคาน บ้านหาดแห่ หมู่ 5 ต.ปากตม อ.เชียงคาน พร้อมให้คำแนะนำแก่เกษตรกร เอกชน ผู้ประกอบการและประชาชนเฝ้าระวังภัยจากน้ำโขงสูงขึ้นไว้ด้วย

 

 

 

 

นายถวิล รามศิริ อายุ 65 ปี เกษตรกร บ้านคกมาด หมู่ 4 ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ. เลย เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวเลี้ยงปลาในกระชังแม่น้ำโขงที่หมู่บ้านมากว่า 10 ปี นับว่ามนรอบ 10 ปีที่ต้องมาประสบกับการสูญเสีย ปลานิลจำนวน 50 บ่อปลาน็อกและลอยแพตายกว่า 5 ตัน น้ำหนักระหว่าง 8 ขีดถึง 1.2 กก.ต่อตัว อายุปลา 4-5 เดือนนั้นคือกำลังจะจับส่งตลาดแต่ก็มาเสียหายก่อน และยังมีอีกหลายรายที่เลี้ยงปลากระชังเช่นเดียวกันและเป็นรายใหญ่กว่าตนอีก ได้รับผลกระทบเหมือนกันแต่ตนไม่ทราบจำนวน เป็นวันที่สองติดต่อกันแล้ว เนื่องจากน้ำโขงไหลเร็วรุนแรงและสีขุ่นข้น ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนความสูญเสียนั้นประมาณ 4 แสนบาททั้งซื้อพันธุ์ปลา ค่าอาหารและอื่นๆ ราคาปลายนิลสดขายในราคา 70 บาทต่อ กก. ตลาดในจังหวัดเลย การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือการตักปลาที่น็อกไปขายตามหมู่บ้าน ตำบล อำเภอต่างๆในราคา 20-30 บาทต่อ กก.ส่วนที่ตายแล้วก็ต้องให้ญาติ เพื่อนบ้านนำไปทำเป็นปลาร้า

 

 

ด้านนางอุ้ม พรหมสาน อายุ 50 ปี  ชาวบ้านหาดแห่ หมู่ 5 ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย เปิดเผยว่า ตนเป็น 1 ในจำนวนกว่า 40 ราย ของชาวบ้านที่สร้างเพิง แคร่ โต๊ะ เก้ากี้ ซุ้ม ข่ายอหาร เครื่องดื่มที่” หาดนางคอย” ชาวบ้านจัดบริการนักท่องเที่ยวและประชาชนมาเที่ยวชมหาดทรายขาว มาพักผ่อน เล่นน้ำ ที่หาดนาองคอยมาหลายปี มาช่วงนี้ตนนับว่าน้ำโขงมาเร็วเพิ่มระดับสูง กระแสน้ำไหลเชี่ยวอีกด้วย เจ้าของซุ้มปรับตัวไม่ทันในการขนย้ายต้องสูญเสียสิ่งของทั้งสังกะสี พื้นไม้ โต๊ะ เก้าอี้ หลายรายสิ่งเหล่านี้ต้องถูกกระแสน้ำพัดจมหายไปทั้งซุ้มขายอาหารเครื่องดื่มและซุ้มไว้บริการนั่ง-นอน กินอาหารอีก ส่วนที่คงเหลือต้องนำขึ้นมาซ่อมแซม หากเสียหายมากก็ต้องซื้อวัสดุมาทำกันใหม่โดยมูลค่าความเสียหายนั้นเฉลี่ยรายละ 50,000 บาท ยังไม่ทราบว่าจะมีหน่วยงาน องค์กรไหนเข้ามาช่วยเหลือได้บ้าง

 

 

 

สำหรับอีกแห่งแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำที่ได้รับผลกระทบคือกลุ่ม”สตรีอาสาพัฒนา”ขายอาหาร เครื่องดื่มที่”แก่งคุดคู้” บ้านน้อย หมู่ 4 ต.เชียงคาน อ.เชียงคานฯ ต่างบอกว่านับว่าน้ำโขงมาเร็ว รุนแรง ไหลเชี่ยว ทางกลุ่มฯต้องช่วยกันอพยพสิ่งของอย่างอลหม่านไปอยู่บนตลิ่งที่สูง แต่ก็มีความเสียหายไม่มากนักเพราะเคยปฏิบัติอย่างนี้บ่อย ๆ แต่ไม่หนักเท้าครั้งนี้ถือว่าวิกฤติก็ว่าได้ เห็นว้าจะมาอีกในช่วง 5 วันนี้ก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้หนักไปกว่านี้เลย ลูกค้า นักท่องเที่ยว ประชาชนลดลงมากด้วยเหตุน้ำโขงสูงนี้แหละ.

 

 

 

ภาพ/ข่าว บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย