จนท.เขตรักษาพันธุ์ฯ ภูเขียว สนธิกำลังดักรวบขบวนการมอดไม้กฤษณาข้ามชาติ พบของกลางกว่า 103 กิโลกรัม

วันที่ 28 มีนาคม 2566 นายอรรพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายอร่าม ทัพหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นายวิชานนท์ แสนผาลา หน.ขสป.ภูเขียว คณะเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาผึ้ง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ร่วมกับ ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ นม.3 (ภูตะเภา) สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

สำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา สำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมาย ของประเทศไทย กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) หน่วยเฉพาะกิจ ปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ) ส่วนยุทธการด้านการป้องกัน และปราบปราม สำนักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรห้วยยาง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชัยภูมิ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันสืบสวนจับกุม ขบวนการมอดไม้กฤษณาข้ามชาติ โดยได้รับเบาะแสจากชาวบ้านว่าเมื่อ (26) มีชาวเวียดนามเข้ามาทำไม้กฤษณา(ไม้หอม) ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ

 

 

 

จากการวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนปฏิบัติการร่วมกัน เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน และเป็นการขยายผลจากคดีตามบันทึกจับกุมฉบับวันที่ 18 มีนาคม 2566 ปจว.ข้อ 1 เวลา 22.52 น. ลงวันที่ 19 มีนาคม 2566 คดีอาญาที่ 42/2566 ยึดทรัพย์ที่ 28/2566 ร.ต.อ.ทะวิต คงโนนกอก พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรห้วยยาง วันที่ 26 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 20.45 น. คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึด-จับกุม กลุ่มขบวนการชาวเวียดนามจำนวน 5 คน

 

ตรวจยึดรถยนต์จำนวน 3 คัน หมายเลขทะเบียน
1. 1นฆ 2114 กรุงเทพมหานคร (ตรวจยึด ณ ที่เกิดเหตุ)
2. กบ 8233 อุดรธานี (ตรวจยึด ณ ที่เกิดเหตุ)
3. ขล 2458 ขอนแก่น (ตรวจยึด ณ ที่พักในอำเภอชุมแพ)

ตรวจยึดชิ้นไม้กฤษณาจำนวน 103.5 กิโลกรัม และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิด จำนวนหนึ่ง

 

 

 

 

ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ร่วมกันเก็บหาไม้กฤษณาในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เป็นความผิดตามข้อหา

1. ฐานร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 53 และมาตรา 96 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
2. ฐานร่วมกันทำด้วยประการใดให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติเดิม ตามมาตรา 55 (2) และมาตรา 99 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่แสนบาทถึงสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
3. ฐานร่วมกันกับพวก เก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใด ๆ ที่เป็นอันตราย หรือ ทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ หรือความหลากหลายทางชีวภาพ ตามมาตรา 55 (5) และมาตรา 100 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
4. ฐานร่วมกันกับพวก กระทำการหรืองดเว้นกระทำการไม่ว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ผู้นั้นต้องชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๘๗ (ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นผู้เสียหายในการฟ้องคดี)
5. ฐานร่วมกันกับพวกเก็บหาของป่าหวงห้าม หรือทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่ของป่าหวงห้ามในป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 29 และมาตรา 71 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484
6. ฐานร่วมกันกับพวกค้าของป่าหวงห้ามหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งของป่าหวงห้ามเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษาโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 29 ทวิ และมาตรา 71 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484
7. ฐานร่วมกันกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า ตามมาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484

โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกจับกุมและนำตัวผู้กระะทำผิดและของกลางกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ.

 

 

ภาพ/ข่าว มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชัยภูมิ