จากกรณีกรรมการวัดพระธาตุพนม มีมติให้กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าที่ตั้งแผงขายดอกไม้ธูปเทียน ลอตเตอรี่ และสินค้าอื่นๆ ให้ออกจากพื้นที่หน้าประตูวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เนื่องจากไปรบกวนพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่มาทำบุญ ส่งผลให้พ่อค้าและแม่ค้าที่ขายของอยู่ในวัด ต้องออกไปขายหน้าวัด จึงไปทับซ้อนกับพ่อค้าละแม่ค้าที่ขายสินค้าชนิดเดียวกันจนเกิดปัญหาความขัดแย้ง ต่อมา นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มแม่ค้าและพ่อค้าที่เคยขายสินค้าอยู่ภายในวัด พร้อมประกาศปิด วัดพระธาตุพนม เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อจัดระเบียบภายในวัด และกวาดล้างมาเฟียที่ใช้วัดแสวงหาประโยชน์ โดยจะเริ่มปิดตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป
ต่อมาวันที่ 3 พ.ค.2566 นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการ จ.นครพนม ทราบเรื่อง จังเดินทางไปที่ วัดพระธาตุพนม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้พบปะพูดคุยกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งแผงขายอยู่หน้าวัดเพื่อรับทราบปัญหา กระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 4 พ.ค. ผู้ว่าราชการ จ.นครพนม พร้อมอัยการจังหวัด รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครพนม และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้ากราบนมัสการ พระเทพวรมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 ในฐานะเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ก่อนร่วมประชุมหารือกับ นายเอื้อ มูลสิงห์ ไวยาวัจกร และคณะกรรมการวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน