วันที่ 31 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้ นายสุเทพ ชัยวัฒน์ ปลัดจังหวัดสระแก้ว พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว ประกอบด้วย ” นายประเสริฐ สิงห์ทอง ป้องกันจังหวัดสระแก้ว นายบุรินทร์ ล่วงเขต ผู้ช่วยป้องกัน จังหวัด ร่วมกับว่าที่ร้อยตรี วินัย ธรรมพรหม ปลัดอำเภอเมืองสระแก้ว หัวหน้ากลุ่มงานบริหารปกครอง นายธีรพงค์ พลเกษตร ปลัดอำเภอ และเจ้าหน้าที่ อส. บุกเข้าตรวจสอบ และจับกุมผู้ต้องหา หลังพบว่า มีกลุ่มบุคคลออกแจกจ่าย ใบนามบัตร ซึ่งมีลักษณะ สีม่วง ส้ม เขียว เพื่อให้สะดุดตา แก่ผู้พบเห็นพร้อมทั้งมีข้อความว่า “เงินด่วน อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สำหรับท่านที่มีธุรกิจ”
เป็นของตัวเอง ต้องการเงินทุนหมุนเวียน เรายินดีร่วมลงทุนกับท่าน ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน พร้อมทั้งแนบเบอร์โทร เพื่อติดต่อกลับ
” หลังจากน้นเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติพิเศษฝ่ายปกครอง จังหวัดสระแก้ว ร่วมกับฝ่ายปกครอง
อำเภอ เมืองสระแก้ว ได้ทำการสืบสวน หาข่าว” โดยการ ปลอมตัวเป็นพ่อค้า ขายผ้ามือสองในตลาดเมืองแก้ว แล้วได้โทรไปยังเบอร์โทร
ที่แสดงไว้ บนใบปลิว ซึ่งการติดต่อ มีการตกลงกันระหว่างสายลับ กับ แก๊งเงินกู้
” คือนายเอกพงศ์ คำเก่ง หรือเอก ในการ กู้ยืมเงินนอกระบบ ซึ่งเงื่อนไขการการติดต่อได้มีการแอดไลน์ ตาม QR Code ที่แสดงในใบปลิว พร้อมส่งสำเนาบัตร ประชาชน
และรูปถ่าย แสดงหน้าร้านค้า ส่งไปในไลน์ของนายเอกพงศ์ คำเก่ง
” จากนั้น สายลับได้ทำการตั้งร้านค้า เพื่อขายสินค้า ตามเงื่อนไขตามที่นายเอกพงศ์ฯ แจ้ง และได้ส่งเอกสารรูปบัตรประชาชน และรูปถ่ายหน้าร้านค้า ที่สายลับได้จัดตั้งขึ้น ส่งไปให้ นายเอกพงศ์ฯ ตรวจสอบ ตามแชท ในโทรศัพท์ Oppo ของนายณัฐพงษ์ และตกลงกู้ยืม
เงินเป็นจำนวน 5,000 บาท โดยส่งเงินกู้แบบรายวัน พร้อมเงินต้นวันละ 300 บาท จำนวน 20 วัน
” จากนั้นในเวลาต่อมา นายเอกพงค์ฯ ได้ติดต่อไปให้ ลูกน้อง มาตรวจสอบร้านที่สายลับได้ปลอมขึ้นมา
บริเวณหน้าร้านขายค้าสินค้า มือสองของสายลับ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตลาดเมืองแก้ว เทศบาลเมืองสระแก้ว
และเมื่อเวลา 17.00 น. นายณัฐพงษ์ฯ ได้เดินทางไปดูบ้านพักของสายลับ ที่บริเวณหมู่บ้านนิตตาโฮม เทศบาลเมืองสระแก้ว
” จากนั้นนายณัฐพงษ์ฯ ได้ส่งข้อมูลการตรวจสอบ บ้านลูกค้าดังกล่าว ให้นายเอกพงศ์ฯ ทางแอปพลิเคชั่นไลน์