ตร.เอาจริงขับขี่รถหวาดเสี่ยวจำคุก 6 เดือน ย้ำมีโทษหนักทั้งจำคุกทั้งริบรถ

วันนี้ 1 เม.ย.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของ ตร. เปิดถึงกรณีจับกุมดำเนินคดีกับเจ้าของเพจ “ทศวรรษ เจริญสุข”ขับขี่รถจักรยานยนต์โชว์ยกล้อ เป็นกระแสในโซเชียลมิเดีย ถูกศาลพิพากษา จำคุก 4 เดือน ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง ไม่รอลงอาญา ว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้ปรากฎภาพจากเพจเฟซบุ๊คของ “ทศวรรษ เจริญสุข” ต่อมาคณะทำงานได้สืบสวนข้อมูลพิสูจน์ทราบได้ว่า คือ นายทศวรรษ ขอสงวนนามสกุล ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha รุ่น Nouvo ในลักษณะยกล้อ บริเวณหน้าปั๊มบางจาก ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี พร้อมข้อความ “มะกี้ล้อหน้าโดนหัวใครขอโทดด้วยนะครับ จิ้งหรีดเต็มใต้เบาะเลยว่ะ ท้ายเต็งหนึ่ง” คณะทำงานฯ

จึงได้มีการบูรณาการร่วมกับ ภ.จว.สระบุรี โดย พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ท้องที่เกิดเหตุ สืบสวนสอบสวนจนสามารถติดตามนำตัว นายทศวรรษฯ เจ้าของเพจเฟซบุ๊คที่โพสต์คลิปวีดีโอดังกล่าว จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ในคลิปวิดีโอนั้นเป็น ของนายไก่ ซึ่งนายทศวรรษฯ ได้ยืมมาขับขี่ก่อเหตุดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และนำตัวส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดสระบุรีในข้อหา ขับขี่รถในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยฯ , ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ ต่อมาศาลมีคำพิพากษาลงโทษ จำคุก 6 เดือน บวกโทษคดีเก่าในคดียาเสพติดอีก 2 เดือนรวม 8 เดือน รับโทษลดกึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 เดือน ริบของกลางรถ จักรยานยนต์ ไม่รอลงอาญา

นอกจากนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ย้ำว่า คณะทำงานป้องกันและปราบปรามการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องของ ตร. ได้วางแนวทางการดำเนินคดีอย่างเข้มงวดในกรณีขับขี่ยกล้อ ประมาทหวาดเสียว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น ในลักษณะดังกรณีข้างต้น อีกทั้งยังได้ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทั้งการโพสต์ชักชวน เชิญชวน บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็ดี ทั้งการรวมตัวบนท้องถนนก็ดี ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยสามารถแจ้งเบาะแสเหตุด่วนเหตุร้าย ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ข่าวภาคตะวันตก