แรงงานไทยในมาเลย์ทยอยกลับบ้านเตรียมฉลองรายอ

วันที่ 8 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงใกล้เทศกาลฮารีรายออีดิ้ลฟิตรีของพี่น้องชาวไทยมุสลิม บรรยากาศที่บริเวณด่านพรมแดน อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอเปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวไทยมุสลิมที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งได้เดินทางข้ามแดนไปขายแรงงานตามเมืองต่างๆ ของมาเลเซีย ได้ทยอยเดินทางกลับบ้านเพื่อเตรียมมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลรายออีดิ้ลฟิตรี ทำให้บรรยากาศที่บริเวณด่านพรมแดน อ.เบตง เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและแรงงานไทยในมาเลเซีย ต่างยืนต่อคิวประทับตราหนังสือเดินทางเข้าประเทศเป็นแถวยาว

โดยเมื่อเดือนรอมฎอนสิ้นสุดก็จะเป็นการเฉลิมฉลอง ที่เรียกว่าวัน “วันอีฎิ้ลฟิตริ”วันอีฎิ้ลฟิตริ หรือ อีดิลฟิตรี ตรงกับวันที่ 1 เดือนเชาวาล ตามปฏิทินอิสลาม เป็นวันออกบวชหลังจากถือศีลอดตลอดระยะเวลา 1 เดือน นิยมเรียกวันนี้ว่า “วันออกบวช” หรือ “รายาปอซอ“ หรือ “รายาฟิตเราะห์” วันแรกของการออกจากเทศกาลถือศีลอด ถือเป็นวันแห่งรางวัล และการตอบแทนสำหรับผู้ผ่านการทดสอบประจำปีในเดือนรอมมาฎอน ด้วยการบังคับตัวเอง จากการลด ละ การกินดื่ม กิเลสตัณหา และได้ละหมาดตะรอวีหฺ เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มตลอดค่ำคืนของเดือนรอมฎอน  สำหรับปี 2567 สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศ เรื่อง การดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ระบุว่าเพื่อให้การกำหนดวันที่ 1 เดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ฮิจเราะห์ศักราช 1445 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ ใน วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า หากในวันและเวลาดังกล่าว “มีผู้เห็นดวงจันทร์” โปรดแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เพื่อคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจะได้ตรวจสอบ และรายงานผลการดูดวงจันทร์ดังกล่าวมายังจุฬาราชมนตรี เพื่อออกประกาศแจ้งให้พี่น้องมุสลิมได้ทราบโดยทั่วกันต่อไป

ด้านนายอมร ชุ่มช่วย นายอำเภอเบตง อำนวยการสั่งการให้ จนท.ฝ่ายปกครอง บูรณาการร่วมทหาร ตำรวจ ตชด. ตั้งด่านตรวจก่อนเข้าพื้นที่ชั้นในและทำการลาดตระเวนตามเส้นทางตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันบุคคลมีหมายจับความมั่นคง ลักลอบข้ามแดนเข้ามาในช่วงนี้ นอกจากนี้ ได้กำชับให้ตั้งด่านตรวจเส้นทางสายรองตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงการตรวจของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลัก ภายหลังเกิดเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนที่จะสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ซึ่งจากเหตุการณ์ความรุนแรงในการป้องกันเหตุต้องอาศัยความมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะพี่น้องประชาชน หากพบเห็นเบาะแสผู้กระทำผิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยให้แจ้งจนท.ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองที่ตั้งด่านตรวจทันที ทั้งนี้ เพื่อความสุขของพี่น้องประชาชนและความสงบอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

เจษฎา สิริโยทัย /จ.ยะลา