“ธรรมนัส”ยกระดับการผลิตเกลือทะเลอนุรักษ์วิถีอาชีพ

วันนี้(6 พฤษภาคม 2567) เวลา 14.00 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะฯได้เดินทางมายังที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.นาโคก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อมาประชุมหารือร่วมกับผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเกษตรกรชาวนาเกลือ เกี่ยวกับที่กรมส่งเสริมการเกษตรเตรียมจัดตั้งโครงการพัฒนาการผลิตเกลือทะเลคุณภาพเพื่ออนุรักษ์วิถีอาชีพเกลือทะเล และพื้นที่นาเกลือ ปีการผลิต 2566/67 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรนาเกลือ ยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจและชีวิตเกษตรกรชาวนาเกลือทะเลไทย
จากการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตเกลือทะเลในปี 2566/2567 จากแหล่งผลิตเกลือทะเล 7 จังหวัด จำนวน 692,470 ตัน โดยจังหวัดที่มีปริมาณผลผลิตเกลือทะเลมากที่สุดได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 311,695 ตัน คิดเป็นร้อยละ 45.01% รองลงมาคือ จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 301,360 ตัน คิดเป็นร้อยละ 43.52% ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้คิดโครงการนี้ขึ้นมาช่วยเหลือชาวเกษตรกรชาวนาเกลือไทย ตลอดจนอนุรักษ์และฟื้นฟูอาชีพการทำนาเกลือไว้ให้คนรุ่นหลังอย่างยั่งยืน ดังนี้

1.กิจกรรมสนับสนุนค่าบริหารจัดการและรักษาเสถียรภาพราคาเกลือทะเล สนับสนุนเกษตรกรผู้ทำนาเกลือในจังหวัดจัดหาผู้รับซื้อในพื้นที่อื่น เพื่อรับซื้อหรือกระจายผลผลิตเกลือทะเล โดยสนับสนุนเป็นเงินจ่ายขาดค่าบริหารจัดการและรักษาเสถียรภาพราคาเกลือทะเล(เกลือขาว)ให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ไม่เกินตันละ 250 บาท เกษตรกรรายละไม่เกิน 120 ตัน โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการรวบรวม/รับซื้อเกลือ/กระจายเกลือทะเล/ค่าบรรจุภัณฑ์/ค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายอื่นๆให้แก่เกษตรกรในการลดและกระจายเกลือทะเลไม่ให้ออกสู่ตลาดพร้อมกัน รักษาเสถียรภาพราคาเกลือทะเล ปริมาณเกลือทะเล จำนวน 75,360 ตัน
2.กิจกรรมสินเชื่อชะลอการขายเกลือทะเล ปี 2566/2567 โดยให้สินเชื่อเพื่อชะลอการขายเกลือทะเลแก่เกษตรกรที่ทำนาเกลือ และสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ประเภทเกลือทะเลคุณภาพปานกลางขึ้นไป ปริมาณเกลือทะเลจำนวน 355,000 ตัน ในอัตราร้อยละ 80 ของราคาเฉลี่ยเกลือทะเลคุณภาพปานกลางขึ้นไป ปราศจากสิ่งแปลกปลอมจากสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น เส้นผม กรวด ทราย ชิ้นส่วนแมลง ขนสัตว์ และสิ่งปฏิกูล ในปีการผลิต 2566/2567 เป็นเงิน 1,500ต่อตัน เมื่อคำนวณวงเงินสินเชื่อที่อัตราไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาที่กำหนดแล้ว ผู้กู้จะได้รับวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 1,200 บาทต่อตัน

หลังจากเสร็จจากการประชุมฯ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะเดินทางไปยังท่าทเทียบเรือประมงรางจันทร์เพื่อพบปะกับเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสะพานท่าเทียบเรือที่ชำรุดเนื่องจากได้ใช้งานมานานแล้ว โครงสร้างคานคอนกรีตหลายจุดแตกร้าว ส่งผลให้การใช้งานสะพานเป็นไปอย่างยากลำบากมีความเสี่ยงอันตรายต่อการสัญจรทั้งเรือประมง ยานพาหนะ และคนเดินเท้า จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกรมประมงวางแผนซ่อมแซมท่าเทียบเรือรางจันทร์ต่อไป.
สุวรรณ โพธิ์บางหวาย ผู้สื่อข่าวจ.สมุทรสาคร