สุดฮือฮา แห่ส่องเลขเด็ด พิธีรำบวงสรวงเจ้าพ่อเชียงโด ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ และโชคลาภที่มีมายาวนาน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 พ.ค. 2566 ที่ บริเวณ ศาลเจ้าพ่อเชียงโด ริมอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว บ.ผือ ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้มีพิธีรำบวงสรวงเจ้าพ่อเชียงโด ในงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2566 ของชุมชนบ้านผือ ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ ให้คงอยู่ และสืบทอดกันต่อไป โดยมี นางสาวเพียงเดือน เทพวงศ์ศิริรัตน์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย พระครูรัตนธรรมาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดสว่างบ้านผือ นายปรีชา สีโสดา นายยกองค์การบริหารส่วนตำบลรัตนบุรี นายอังกูร สีโสดา ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และประชาชนชาวตำบลรัตนบุรีกว่า 1,000 คน ร่วมในพิธีเปิดในวันนี้

โดยภายหลังจากพิธีเปิด ก็ได้มีการรำบวงสรวงเจ้าพ่อเชียงโด เพื่อเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟประจำปี 2566 และเพื่อขอพร ให้ฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีนางรำกว่า 200 คน ร่วมฟ้อนรำอย่างสวยงาม

 

 

 

 

 

 

 

และหลังจากเสร็จพิธี ก็ได้มีชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธา ได้เข้าไปจุดธูปกราบไหว้ขอพรที่บริเวณศาลเจ้าพ่อเชียงโด เพื่อขอโชคลาภ โดยใช้ธูปเสี่ยงทายตามความเชื่องของชาวบ้านที่มีมานาน และภายหลังจากธูปไหม้จนหมด ธูปเสี่ยงทายก็ปรากฏเป็นเลข 455 ซึ่งชาวบ้านต่างพากันฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ที่มีการจุดธูปเสี่ยงทายขึ้น เพราะที่ผ่านมา ชุมชนไม่ได้จัดงานแบบนี้มากว่า 10 ปีแล้ว เพราะแต่เดิมก็มีแต่เพียงชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธา พากันมากราบไหว้ขอพรกันตามปกติธรรมดา เพราะว่าในบริเวณนี้แต่ก่อนยังไม่ได้มีการพัฒนา ทางเข้าออกมาค่อนข้างลำบาก เพราะยังเป็นป่าทึบ ซึ่งก็ต่างสมหวังกันไปตามๆกัน จนเป็นที่เล่าขานในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และในเรื่องโชคลาภกันเป็นอย่างมาก แต่ในครั้งนี้นับเป็นพิธีไหว้บวงสรวงที่นับว่ายิ่งใหญ่มาก และเป็นครั้งแรกของชุมชนที่มีการจัดขึ้นในรอบกว่า 10 ปี ทำให้หลายคนตื่นเต้นมาก และต่างก็จะนำเอาเลขมงคลที่ได้นี้ไปเสี่ยงโชคซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ในงวดวันที่ 16 พ.ค. ที่จะมาถึงนี้ โดยหวังจะมีโชคกันถ้วยหน้า ซึ่งในรอบกว่า 10 ปี ชาวบ้านในชุมชน อาจจะมีโชคครั้งใหญ่ในงวดนี้ก็เป็นได้

 

 

 

 

 

 

สำหรับศาลเจ้าพ่อขอดเชียงโด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำห้วยแก้ว ที่เรียกว่า “ขอดเชียงโด” ซึ่งเป็นตาน้ำธรรมชาติที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ซึ่งมีมานานนับ 100 ปีแล้ว โดยน้ำได้ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า “อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว” ที่ใช้ในการอุปโภคและบริโภคของชาวอำเภอรัตนบุรีมายาวนาน ปัจจุบันเป็นแหล่งน้ำประปา ของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอรัตนบุรี ที่ใช้สำหรับผลิตน้ำประปาแจกจ่ายไปให้กับอำเภอรัตนบุรีและอำเภอใกล้เคียง ซึ่งศาลเจ้าพ่อขอดเชียงโด นั้นยังไม่มีใครทราบประวัติว่ามีการสร้างมาตั้งแต่สมัยใด แต่มีการเล่าต่อๆกันมาว่าน่าจะมีอายุนับ 100 ปีขึ้นไป และมีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องขอพร และขอโชคลาภ

 

 

โดยนายนรินทร์ เพิ่มทอง อายุ 81 ปี (เสื้อลายสีน้ำเงิน) ชาวชุมชนบ้านผือ ได้เล่าว่า ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์นั้น ตามที่ตนได้เคยเห็นมา มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีชาวบ้านหนองเทพ ซึ่งสมัยแต่ก่อนจะเดินทางมาซื้อของในตลาดอำเภอรัตนบุรี ต้องเดินเท้ามากันหลายคน และจะต้องมาแวะกินข้าวเที่ยงที่ยอดเชียงโด ซึ่งจะมีแหล่งน้ำผุดขึ้นจากดิน และต่างก็จะพากันมาตัดน้ำที่นี่กินกัน แต่มีอยู่คนหนึ่งที่มาด้วยติว่า น้ำที่นี่เหม็นเหมือนตด ซึ่งน้ำที่นี่จะเป็นน้ำที่ผุดขึ้นมาจากดินขาว ซึ่งดินขาวจะมีกลิ่นหอม โดยชาวบ้านที่นี่มักจะมาตักเอาไปดื่มกิน เพราะว่ามีกลิ่นหอม แต่คนที่บอกว่ามีกลิ่นเหม็นนั้น เมื่อเดินทางต่อไปตลาดก็ไปนอนพักอยู่ที่บ้านผือใหญ่ก่อนถึงตลาด ก็ปรากฏว่าไปนอนตายเฉยๆ ซึ่งชาวบ้านต่างก็เล่าลือถึงความศักดิ์สิทธิ์กันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งชาวบ้านที่นี่ก็มักจะพากันมาไหว้ศาลเจ่าพ่อเชียงโดกันทุกปีในช่วงเดือนเมษายน โดยเฉพาะคนมีโชคลาภก็มักจะมากันบ่อย และต่างก็สมหวังกันไปตามๆกัน.

 

 

ภาพ/ข่าว ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์