ชาดา นำทีมกรมการปกครอง ตำรวจพัทยา บุกจับ เดอตี้พัทยา ผับครบวงจร รวบ ผู้ค้า-นักเที่ยวปัสสาวะม่วงกว่า 200 ยาเกลื่อนพื้น ยึดอาวุธปืนพร้อมลูกกระสุนคารถยนต์เพียบ

เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง
กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สั่งการให้สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน โดย ร้อยตำรวจเอกเขตรัฐ ชาญศิลป์ ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและรักษาความสงบ (DOPA FORCE) เจ้าพนักงานร่วม 5 สำนัก จากกรมการปกครอง จำนวนกว่า 150 นาย ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 โดย พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี และนายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา บุกเข้าตรวจสอบสถานบันเทิง เดอตี้ ผับ (Dirty Pattaya) เลขที่ 47/126 ม.10 ภายใน ซอยกอไผ่ พัทยาใต้ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องมาจากกรมการปกครอง ได้รับรายงานและร้องเรียนว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ Dirty Pub Pattaya เป็นผับที่รู้กันในวงการสายตื๊ด ว่ามีครบวงจร ทั้งจำหน่าย จ่ายแจก เสพ ดม อม เคี้ยว และเป็นสถานบันเทิงผิดกฎหมาย มีนักเที่ยววัยรุ่นจำนวนมาก เข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติด และจำหน่ายยาเสพติด เป็นประจำเกือบทุกวัน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง รวมถึงเปิดให้บริการปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงได้วางแผนนำกำลังบุกมาตรวจสอบ พบว่า เป็นผับตั้งอยู่ใจกลางเมือง และรอบข้างมีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่กว่า 100 หลังคาเรือน

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่า ผับดังกล่าวกำลังเปิดเพลงดังสนั่น มีนักเที่ยวกว่า 300 คน กำลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะดนตรีอย่างเมามันส์ เจ้าหน้าที่กรมการปกครองจึงสั่งให้ยุติกิจกรรมทั้งหมด ปิดเพลงเปิดไฟ แล้วสั่งแยกผู้หญิง ผู้ชาย ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน จากนั้น ได้นำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน 219 คน เป็นผู้ชาย 103 คน เป็นผู้หญิง 116 คน ยังตรวจเจอ ยาเสพติด ซองใสแบบซิปที่นักเที่ยวทิ้งไว้เกลื่อนพื้น และถังขยะจำนวนมาก

นอกจากนี้ ได้คุมตัวนักเที่ยวออกมาตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายภายในตัวรถยนต์ เบื้องต้นพบว่า นักเที่ยวทราบชื่อคือ นายธนนันท์ เข็มทอง อายุ 23 ปี มีอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.พร้อมเครื่องกระสุน 9 นัด ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย และกระบอกที่สองเป็นอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 10 นัด เป็นของ นายภูวไนย ปรึกษาชาติ อายุ 30 ปี ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ โดยอ้างว่า พกติดรถไว้ป้องกันตัว โดยนักเที่ยวอีกหลายรายยังพบยาเสพติดซุกซ่อนไว้ในรถอีกด้วย

ทั้งนี้ พ.ต.อ.นาวิน ธีรวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าร่วมตรวจสอบ และควบคุมตัวผู้กระทำผิดทั้งหมด ทั้ง ผู้ครอบครองอาวุธปืน ผู้ที่มีปัสสาวะสีม่วง รวมทั้งผู้ดูแลร้าน พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืน และยาเสพติด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา โดยผู้ดูแลร้าน แจ้งข้อกล่าวหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ พร้อมทั้ง เสนอสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

 

อนันต์ กิ่งสร / ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ชลบุรี