HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

ชาวสุรินทร์สุดปลื้ม นายกฯ เศรษฐา มาเยือน แห่ต้อนรับแน่น หวังช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำ เผยอยากได้เงินดิจิตอล หากได้จริง จะขอกราบงามๆ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ( 30 มิ.ย.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ ได้เดินทางไปที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว บ้านกกข่า ตำบลหนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยมี นายพิจิต บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ , นายพรเทพ พูนศรีธนากูล ส.ส.สุรินทร์ เขต 4 เจ้าของพื้นที่ , ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ เขต 5 , นายชูชัย มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ เขต 2 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน และประชาชนในพื้นที่คอยให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

 

 

 

 

สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว ก่อสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2508 สร้างขึ้นกั้นลำห้วยแก้ว ปัจจุบันได้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค (บริการน้ำประปา) และการเกษตร ปลูกข้าวใช้ประโยชน์ในการเกษตร และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่ เป็นน้ำต้นทุนที่ใช้เป็นแหล่งผลิตน้ำประปาสำหรับให้บริการในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอรัตนบุรี อำเภอสนม และอำเภอโนนนารายณ์ โดยมีพื้นที่รับน้ำฝน 62.50 ตารางกิโลเมตร ความจุ ที่ระดับเก็บกัก 4.92 ล้านลูกบาศก์เมตร ความจุของอ่างฯ ที่ระดับน้ำสูงสุด 5.7 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เฉลี่ย 12.3 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี ทั้งนี้ ปริมาณน้ำปัจจุบัน 2.4 ล้าน ลบ.ม. (ความจุ 49.62%)

 

 

 

 

ซึ่งปัญหาที่พบในปัจจุบัน พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตชลประทาน ราษฎรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค จึงต้องรีบดำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้ำเพื่อให้น้ำสามารถไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำห้วยแก้วได้สะดวก และกักเก็บน้ำได้ในปริมาณมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม

ประโยชน์ที่จะได้รับ คือสามารถเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นได้อีก 300,000 ลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์ 3,645 ไร่ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปาในเขตอำเภอรัตนบุรี จำนวน 7 ตำบล ราษฎร 4,808 ครัวเรือนและอำเภอสนม จำนวน 2 ตำบล ราษฎร 2,878 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 2 อำเภอ 9 ตำบล ราษฎร์ จำนวน 7,686 ครัวเรือน หน่วยดำเนินการ โครงการชลประทานสุรินทร์ ระยะเวลาดำเนินโครงการ 180 วัน ใช้งบประมาณ 15,000,000 บาท

 

 

ซึ่งภายหลังจากได้ตรวจเยี่ยมดูสถานที่ นายกก็ได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ให้รีบดำเนินการทันทีเพื่อให้ทันช่วงฤดูฝนนี้ เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้ใช้น้ำในการอุปโภคบริโภคได้ดียิ่งขึ้น จากนั้นก็ได้เดินพบปะกับพี่น้องประชาชนที่มาคอยให้การต้อนรับ ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น หลายคนมาขอถ่ายรูปกับนายกฯ ซึ่งนายกฯก็เป็นกันเอง และได้ถ่ายภาพเซลฟีกับประชาชนด้วย ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังโรงเรียนรัตนบุรี ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 8 ก.ม. เพื่อร่วมประชุมหารือแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ กับหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

โดยชาวบ้านที่มาให้การต้อนรับ ต่างกล่าวว่า ดีใจมากที่วันนี้นายกฯมา อยากจะให้นายกฯมาช่วยเรื่องแหล่งน้ำ โดยขุดให้ลึกๆจะได้มีน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง เพราะหน้าแล้งแถวนี้จะแห้งหมด ไม่มีน้ำใช้เลย และก็อยากได้เงินดิจิตอลด้วย หากได้จริงก็จะขอกราบงามๆ ขอให้สมกับคำที่ได้พูดไว้กับประชาชน

 

 

 

 

 

 

และที่ห้องประชุมโรงเรียนรัตนบุรี อ.รัตนบุรี ซึ่งใช้เป็นพื้นที่ประชุมหารือแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ กับหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อนายกฯเดินทางมาถึง ก็ได้เดินเยี่ยมชมบูธแสดงสินค้าขึ้นชื่อในอำเภอรัตนบุรี และในจังหวัดสุรินทร์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวากิวจังหวัดสุรินทร์ ผ้าไหม สิ่งทอพื้นเมือง ผลิตผลทางการเกษตร ก่อนที่จะเข้าห้องประชุม ซึ่งภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยในส่วนของจังหวัดสุรินทร์ ก็จะได้มีการพัฒนาแหล่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว เพื่อให้มีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ และในฤดูฝน ก็สามามรถป้องกันน้ำท่วมได้ เพื่อให้พี่น้องมีน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคได้อย่างเพียงพอ ซึ่งจังหวัดสุรินทร์เองก็เป็นจังหวัดที่ผลิตข้าวได้เป็นอันดับต้นๆ ซึ่งข้าวหอมมะลิอินทรีย์ กำลังมีราคาดี ถือว่ามีศักยภาพสูง ซึ่งเราก็จะพยายามหาทางให้การแปรรูปสินค้าให้ดียิ่งๆขึ้น เพื่อให้พี่น้องชาวจังหวัดสุรินทร์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แล้วก็มีการจัดการพัฒนาด่านศุลกากรช่องจอม ไทย-กัมพูชา เพื่อกระตุ้นศักยภาพการค้าชายแดน ระหว่างเราและกัมพูชา และการก่อสร้างสนามบินจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งก็ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม ให้ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะสร้างสนามบินในจังหวัดสุรินทร์ด้วย และอีกเรื่องหนึ่งที่น่ายินดีก็คือ โคสายพันธุ์สุรินทร์วากิว ซึ่งพวกเราก็มักจะได้ยินแต่วากิวญี่ปุ่น ซึ่งมีราคากิโลละหลายพันและถึงหมื่นได้ ซึ่งที่สุรินทร์ทำได้ดีมาก ซึ่งโคก็ถือว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวหนึ่ง ซึ่งก็จะทำให้พี่น้องมีรายได้ที่ดีเพิ่มขึ้นด้วย

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนเรื่องของยาเสพติด นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าการปลูกฝังให้เห็นถึงผลร้ายต้องปลูกฝังที่โรงเรียนก่อน จึงฝากผู้ว่าราชการจังหวัด และศึกษาธิการจังหวัด บรรจุเข้าไปในทุกๆกิจกรรมของนักเรียน ขณะเดียวกันอยากให้ทุกระดับตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหามาตรการช่วยให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ส่วนเรื่องของการปราบปรามก็ต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เพราะจะพัฒนาอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าประชาชนยังติดยาเสพติดก็ไม่เป็นผลดี.

จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ ก็ได้เดินทางกลับในเวลา 12.00 น.

 

 

 

 

ภาพ / สุทิศ บุญยืน
ข่าว / ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์ รายงาน