ผบ.ตร. มอบรางวัลตำรวจสายตรวจสน.เทียนทะเล ระงับเหตุตามหลักยุทธวิธีตำรวจ

เมื่อวันที่16 พฤษภาคม 2566 เวลา 12.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ตำรวจสายตรวจ สน.เทียนทะเล เข้าระงับเหตุตามหลักยุทธวิธีตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล” นั้นเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดีมีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ตลอดจนข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงาน

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 01.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลเทียนทะเล ได้รับแจ้งเหตุ ว่ามีชายทะเลาะกับภรรยา และมีพฤติกรรมคล้ายจะทำร้ายร่างกาย ในพื้นที่ติดต่อใกล้เคียง จึงได้รุดนำกำลังเข้าตรวจสอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรร บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ พบลูกสาวของผู้ก่อเหตุ และเจ้าหน้าที่สายตรวจของสถานีตำรวจภูธรโคกขาม จำนวน 2 นาย กำลังประเมินสถานการณ์ โดยลูกสาวของผู้ก่อเหตุได้ให้ข้อมูลว่า พ่อของตนเกิดอาการคุ้มคลั่งทะเลาะกับแม่ และมีอาวุธปืนติดตัว ในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามข้อมูลจากผู้แจ้ง ได้มีเสียงเอะอะโวยวายเกิดขึ้นในบ้าน เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ดูแล้ว มีความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่ปลอดภัย จึงได้ตัดสินใจเข้าระงับเหตุตามหลักยุทธวิธีและใช้จิตวิทยาโน้มน้าวผู้ก่อเหตุ จนสามารถคลี่คลายสถานการณ์ ระงับเหตุได้อย่างปลอดภัย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า ตำรวจทั้ง 3 นายเป็นผู้ที่มีความสามารถสูง ปฏิบัติงานตามหลักยุทธวิธีตำรวจสมควรแก่การยกย่องสรรเสริญ ตามโครงการ “ทำดีมีรางวัล” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมสืบไป

ผบ.ตร.กล่าวต่อไปอีกว่า “ตนขอชื่นชมในความกล้าหาญ ที่ให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และทันท่วงทีตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”