HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

ลูกชายเจ้าของท่าเรือ ขับเร่งแซงเรือเจอคลื่นซัดพุ่งชนศาลาพังทับร่างจมน้ำดับ

หนุ่มวัย 32-ปี ลูกชายเจ้าของท่าเรือดัง ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ขับแซงเรือลำอื่น เจอคลื่นซัดเสียหลักพุ่งชนศาลาท่าน้ำพังทับจมน้ำเสียชีวิต

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ร.ต.อ.ไชยเชษฐ์ ดวงรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางคนที ได้รับแจ้งเหตุเรือชนศาลาท่าน้ำพังทับสูญหาย จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสรรพราเชนทร์สมุทรสงคราม ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านริมคลองบางน้อย เลขที่ 23 ม.3 ต. ยายแพง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม บริเวณศาลาท่าน้ำหน้าบ้านพังจมลงไปในคลอง ใกล้กันมีเรืออีปั๊บ 4 วา ซึ่งเป็นเรือนำเที่ยวจากตลาดน้ำดำเนินสะดวก ชื่อเรือ : พรวารินทร์7 จอดอยู่ ส่วนคนขับชื่อ นายทรงกรด  อายุ 34 ปี ลูกชายเจ้าของท่าเรือแห่งหนึ่งใน ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ถูกศาลาท่าน้ำทับจมลงไปในน้ำ ท่ามกลางความโศกเศร้าของบิดาจนเป็นลม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งปฐมพยาบาล และยังมีญาติๆเพื่อนๆมาดูเหตุการณ์ คอยลุ้นให้กำลังใจหวังมีปาฏิหารณ์กันเป็นจำนวนมาก กระทั่งเจ้าหน้าที่ประดาน้ำ 2 นาย ต้องเร่งงมช่วยเหลือ ไม่ถึง 10 นาที พบร่างนายทรงกลด ถูกศาลาทับอยู่ใต้น้ำ เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำร่างขึ้นมา และนายทรงกลดเสียชีวิตแล้ว

นายปรีดา ปูนชาติ อายุ 39 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนนอนเล่นในท่าน้ำวัดบางน้อยพระนอนแสนเหรียญ ได้ยินเสียงซัดกันมา 2 ลำ แล้วได้ยินเสียงดังโครม และเห็นเรือเปล่าลอยมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ
นายธนะรัตน์ ธีระอนุปัญ อายุ 24 ปี ชาว ต.ดำเนินสะดวก คนขับเรือนักท่องเที่ยว เล่าว่า ตนขับเรือไปส่งนักท่องเที่ยวที่ตลาดน้ำอัมพวา มาเจอนายทรงกลดขับเรือเล่นอยู่กลางทาง และนายทรงกลดก็วกเรือกลับขับเรือตามมา กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุนายทรงกลดเร่งเครื่องเพื่อแซง ช่วงที่มาตีคู่กัน พอดีเป็นช่วงโค้ง ประกอบกับน้ำไหลเชี่ยว ทำให้เรือของนายทรงกลดเสียหลักท้ายปัดเข้าชนศาลาริมน้ำดังกล่าว พอเกิดเหตุตนก็กลับเรือมาจอด ทิ้งเรือแล้วกระโดดน้ำหาคนก่อน แต่น้ำไหลเชี่ยวมากกระทั่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตขับเรือจาก Family ดำเนินสะดวก มาเข้าคลองบางน้อย โดยใช้ความเร็วมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ลักษณะขับแซง เรืออีกลำ แต่เนื่องจากคลื่นแรงเสียการบังคับ ท้ายเรือชนศาลาริมน้ำทับ
ส่วนท้ายเรือและผู้เสียชีวิตจมใต้น้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป