จากหลักฐานที่ทางบริษัท เฮลธ์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ภายในบริเวณบ้านสุขาวดี ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้ส่งหลักฐานไปให้มีการพิสูจน์ทราบทางกระบวนการยุติธรรม กรณีที่เมืองพัทยามีคำสั่งห้ามใช้ ต่อเติม ระงับ และห้ามใช้อาคาร ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร จำนวน 3 หลัง โดยเฉพาะในส่วนของอาคาร A ซึ่งเป็นอาคารและเวทีขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างอยู่บนที่ดินสาธารณะขนาด 11 ไร่ 1 งาน โดยสร้างอาคารเป็นโครงเหล็ก 2 ชั้น จำนวน 1 หลัง และป้ายโฆษณาจำนวน 2 ป้าย ซึ่งมีการฟ้องร้องและอุทธรณ์กันตั้งแต่ระดับจังหวัดไปจนถึงการฟ้องร้องที่ศาลปกครองว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย “บ้านสุขาวดี” ให้เหตุผลว่าอาคารดังกล่าวตั้งอยู่พื้นที่งอกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เมืองพัทยามั่นใจว่าจากแนวเขตการรังวัดและภาพถ่ายทางอากาศนั้นเป็นการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอย่างแน่นอน จึงเป็นข้อพิพาทเพื่อรอผลการตรวจสอบ กระทั่งต่อมาศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองเป็นการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ และล่าสุดศาลก็มีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองแล้ว เมืองพัทยาจึงได้เร่งรัดเข้ามาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนอาคาร B และ C เมืองพัทยาแจ้งว่าจากการรังวัดแนวเขตจากระดับน้ำทะเลสูงสุด แล้วพบว่าอาคารอยู่ในแนวที่มีการล่วงล้ำลำน้ำ โดยปัจจุบันได้มีการตัดพื้นที่ของอาคาร C ไปแล้ว เพื่อลดขนาดให้อยู่ในระยะห่างจากทะเลตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนอาคาร B นั้น ยังคงรอการดำเนินการอยู่เนื่องจากการศาลยังให้การคุ้มครอง
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 2 มิถุนายน 2566 นายสุริยา แก้วเขียว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร นายมารุต อุทัยวัฒนานนท์ วิศว กรโยธาชำนาญการ นายเกียรติศักดิ์ คงเขียว วิศวกรโยธาชำนาญการ นายกฤษฎาสิทธิ์ เกษจินดา นายช่างโยธา นายชัยวัฒน์ แจ้งสว่าง นายช่างโยธาชำนาญการ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง และเจ้า หน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยา นำกำลังบุคลากรกว่า 20 คน พร้อมอุปกรณ์และเครื่องจักรหนัก อาทิ รถแบ็คโฮ รถบรรทุก เดินทางกลับมายัง บ้านสุขาวดี ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีกครั้ง เพื่อดำเนิน การรื้อถอนอาคารหลังดังกล่าวอีกรอบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้คือในวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้ทำการตัดน้ำ ตัดไฟ และทุบรื้อพื้นที่เวทีและอุปกรณ์ตกแต่งบางส่วนออกไป เพื่องดไม่ให้ทางบ้านสุขาวดีสามารถใช้พื้นที่ในการจัดงานได้ ระหว่างที่รอช่วงเวลาในขบวนการจัดซื้อ-จัดจ้างตามกฎหมาย เพื่อให้ ภาคเอกชนเข้ามารับเหมางานรื้อถอนอาคารทั้งหมดออกจากพื้นที่ไปอย่างเป็นรูปธรรม