HD_web_ข่าวเด่นทั่วไทย-03-removebackground

เจ้าสำนักสงฆ์วัดเขาหลักจันทร์ปลูกผักให้ญาติโยมเข้ามาทอนเพื่อนำเงินไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ

วันที่  25  ส.ค.  2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง พระเคารพ ญาติโก เจ้าสำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ กำลังเร่งเก็บแตงกวาพันธุ์เล็กหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า แตงไข่เข้ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าแตงกวาทั่วไป 3-4 เท่า แต่ให้ความกรอบ ความหวานมากกว่า ชาวบ้านนิยมนำไปกินคู่กับน้ำพริก ผักลวก ทำแกงส้มและผัดต่าง ๆ โดยพระเคารพร่วมกับพระสงฆ์ ใช้เวลาปลูกประมาณ 35-40 วันก็สามารถเก็บได้แล้ว ซึ่งรอบนี้พระเคารพ ปลูกแตงไข่เข้ไว้จำนวน 2,000 ต้น โดยแต่ละวันจะเก็บแตงไข่เข้ได้ประมาณ 20-30 กิโลกรัม คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 30,000-40,000 บาท ส่วนเงินที่ได้นำไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ภายในสำนักสงฆ์ หากเหลือก็จะแบ่งปันไปทำบุญช่วยเหลือผู้ยากไร้ในชุมชนต่อไป โดยแตงกวาที่พระปลูกไม่ได้นำไปวางขายที่ไหน แต่มีชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่ ที่เข้ามาพบเห็นในช่วงที่ผักกำลังเก็บเกี่ยว ต่างช่วยกันอุดหนุน โดยตั้งราคากันเองแล้วแต่จะให้ตามกำลังศรัทธา ส่วนคนที่มีรายได้น้อย เข้ามาเก็บกินฟรีได้ ทำชาวบ้านแห่อุดหนุนจนผักหมดเกลี้ยงทุกรอบ

โดยรอบต่อไปจะลงมือปลูกถั่วฝักยาว บวบ มะเขือ ผักบุ้งและผักอื่น ๆ ซึ่งผักทุกชนิดปลอดภัยจากการใช้สารเคมี เพราะพระสงฆ์ก็นำผักไปทำอาหารฉันในสำนักสงฆ์ด้วย หากวันไหนไม่มีญาติโยมเข้ามาทำบุญที่วัด และหากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พระสงฆ์ก็จะช่วยกันปลูกผักอีกหลายชนิดจนกว่าจะเข้าสู่หน้าแล้ง ซึ่งข้อดีในการปลูกผักได้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น ได้ฝึกสมาธิ ทำให้มีรายได้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ มีเงินเหลือใช้นำไปช่วยเหลือชาวบ้าน และได้กินผักปลอดภัยซึ่งดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างให้กับชาวบ้าน นำไปปรับใช้เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนใครสนใจอยากจะอุดหนุนพืชผักทางการเกษตรฝีมือพระทำ หรืออยากจะถวายปัจจัยเพื่อเป็นค่าน้ำค่าไฟ สามารถติดต่อไปได้ที่พระเคารพ ญาติโก หมายเลขโทรศัพท์ 083-2802764

ด้านพระเคารพ ญาติโก เจ้าสำนักสงฆ์เขาหลักจันทร์ อ.เมืองตรังกล่าวว่า ใช้เวลาปลูกแตงกวาประมาณ 2,000 ต้น ปลูกแค่เดือนกว่า ๆ ก็ได้เก็บขาย คาดว่าน่าจะได้เงินประมาณ 30,000-40,000 บาท ถ้าเราไม่ขี้เกียจอยู่ที่ไหนก็ไม่อดอยาก ซึ่งการปลูกผักได้ประโยชน์ 3 อย่าง อย่างแรกเป็นการฝึกสมาธิให้กับตัวเอง แล้วนำไปสอนชาวบ้านได้ อย่างที่ 2 คือได้จ่ายค่าน้ำค่าไฟและค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในสำนักสงฆ์ และ 3 ได้ไปช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งผักไม่ได้ขาย แล้วแต่โยมจะทอน ซึ่งชาวบ้านจะมาถามว่ามีแตง มีถั่วมั้งมั้ย นี่บวบกำลังจะทำนั่งร้านให้ ซึ่งชาวบ้านจะให้กี่บาทก็แล้วแต่ เพราะตนได้สุขภาพมาแล้ว อีกส่วนหนึ่งได้ไปฝึกสมาธิในสวนผัก ทำให้ไม่เครียด ซึ่งตนจะปลูกผักไปเรื่อย ๆ ในช่วงที่ไม่มีน้ำก็หยุด ช่วงไหนมีน้ำก็ปลูก เพื่อจะได้ช่วยเหลือชาวบ้านทั่ว ๆ ไป

ถนอมศักดิ์  หนูนุ่ม /จ.ตรัง