ค่าเงินบาทแข็งค่าส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม

วันที่ 28 ส.ค. 2567 นายธนพจน์ ศุภศรี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง กล่าวว่า เศรษฐกิจของจังหวัดตรังนั้นจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับสินค้าทางการเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน ยางพาราและสินค้าที่แปรรูปจากยางพารา ส่วนใหญ่เป็นไม้ยางพาราแปรรูป ที่ส่งออกไปประเทศจีน เมื่อสินค้าทางการเกษตรที่ราคาสูงก็จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ในปัจจุบันเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ปาล์มน้ำมัน มีราคา 6 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้ ไม่ประสบปัญหาการขาดทุนจากการขายผลปาล์ม ส่วนยางพารานั้นอยู่นี้อยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นไปตามกลไกของตลาด และความต้องการในการใช้น้ำยางพาราเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ ในขณะนี้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม กำลังประสบปัญหาในเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อยู่ที่ประมาณ 33 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ ทั้งนี้ค่าเงินบาทควรอยู่ที่ 35 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ จึงขอให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้

 

ส่วนการจำหน่ายสินค้าที่จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากการท่องเที่ยวอยู่ในช่วงปิดฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดตรังจุดขายของการท่องเที่ยวเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล โดยเฉพาะเกาะกระดาน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก จึงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวขาวไทยและชาวต่างชาติ แต่เมื่อปิดการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงมรสุมจึงทำให้บรรยากาศท่องเที่ยวเงียบเหงา จึงต้องการให้รัฐบาลผลักดันเกาะกระดานเป็นแหล่งท่องเที่ยวซอฟเพาเวอร์ของจังหวัดตรัง

นอกจากนี้ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ ต่อนางสางแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เอื้อต่อการลงทุน การแก้ปัญหาสินค้าจากประเทศจีนที่มีราคาถูกเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย การสร้างระบบรางในการขนส่งสินค้า เนื่องจากการขนส่งในการใช้รถบรรทุกนั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง การจัดตั้งศูนย์วันสตอปเซอร์วิส ดำเนินธุรกรรมต่างๆเสร็จในที่เดียว ส่งเสริมการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นด้านยานยนต์หรือนวัตกรรมต่างๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบสามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ หากผู้ประกอบการมีต้นทุนสินค้าที่สูงก็ทำให้การแข่งทางธุรกิจค่อนข้างลำบาก

ถนอมศักดิ์  หนูนุ่ม /จ.ตรัง