สาธุชนหลั่งไหล ร่วมงาน 113 ปี ชาตกาล “หลวงปู่เจียม อติสโย” ในวันเปลี่ยนผ้าไตรจีวร สังขารที่ไม่เน่าเปื่อย

วันที่ 1 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดอินทราสุการาม(วัดหนองยาว) ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้มีประชาชนจำนวนต่างพากันหลั่งไหลเดินทางไปที่วัด เพื่อร่วมงานในวันเปลี่ยนผ้าไตรจีวร ให้กับสรีระสังขาร หลวงปู่เจียม  อติสโย กันอย่างเนืองแน่น หลังจากที่ท่านได้มรณภาพไป 18 ปีที่แล้ว โดยที่สรีระสังขาร ไม่เน่าเปื่อย ซึ่งหลวงปู่เจียมฯเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วสารทิศ จึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย  โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 1 ก้นยายน 2567  ภายใต้ชื่องาน “113 ปีชาตกาล สืบสานบารมี หลวงปู่เจียม อติสโย” ภายในงานจะมีโรงทานมากมายไว้บริการประชาชน มีร้านค้าออกบูธมาวางขายของกินของใช้กันเป็นจำนวนมาก

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ระหว่างที่มีพิธีเปลี่ยนผ้าไตรจีวรสรีระสังขารของหลวงปู่เจียม อติสโย ลูกศิษย์ไม่อนุญาติให้มีการบันทึกภาพแต่อย่างใด  ซึ่งระหว่างที่มีการเปลี่ยนผ้าไตรจีวรสรีระสังขารของหลวงปู่อยู่นั้น ก็มีการเคลื่อนย้ายโลงแก้วออกมาไว้ข้างนอก เพื่อเตรียมเคลื่อนสรีระสังขารที่เปลี่ยนผ้าไตรจีวรแสร็จ มาบรรจุไว้ในโลงแก้วเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้สักการะอีกครั้ง  ซึ่งก็มีประชาชนพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานต่างพากันไปเข้าแถวเพื่อลูบคลำโลงแก้วของหลวงปู่เพื่อเป็นสิริมงคล รวมทั้งยังทำบุญบริจาคเงินตามกำลังศรัทธาเพื่อช่วยทำนรุบำรุงศาสนาอีกด้วย

 

โดยชาวบ้านที่มาร่วมงานได้ร่วมทำบุญผ้าป่าลอยฟ้าเพื่อสร้างเจดีย์องค์ใหญ่ และทำบุญถวายสังฆทาน รดน้ำมนต์ขอพรกัน แล้วมีชาวบ้านรายหนึ่งที่มาทำบุญและได้อธิฐานขอพรหลวงปู่เจียม ก่อนไปซื้อสลากรางวัลที่ทางคณะกรรมการจัดให้มีการจับสลากสำหรับผู้มาร่วมงานได้ทำบุญร่วมกับวัด ซึ่งมีผู้หญิงที่เป็นครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านกระเทียม อธิษฐานขอพรว่าขอให้ได้รางวัลเป็นตู้เย็น จะเอาไปไว้ที่ศูนย์เด็กเล็ก  แล้วโชคดีได้รางวัลใหญ่เป็นตู้เย็นจริงๆ ถึงกับร้องเสียงกรี๊ดลั่นเสียงหลง กระโดดกอดเสา ด้วยความดีใจ ด้วยแรงอธิฐานขอพรจากหลวงปู่ที่ชาวบ้านเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก

 

 

 

โดยหลวงปู่เจียมฯยังเคยได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูอุดมวรเวท” เมื่อปี พ.ศ.2527 และเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2537 “สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาท” ก็ได้เคยเสด็จราชดำเนินมาทรงเยี่ยมหลวงปู่เป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งนี่ก็คือประวัติศาสตร์ที่จะต้องจารึกไว้ที่วัดแห่งนี้ตลอดกาล

 

 

 

 

 

 

พระครูอุดมวรเวท หรือหลวงปู่เจียม อติสโย ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2454 ณ บ้านดองรุน ต.ปะเตียยเนียง (ปะ-เตีย-ยะ-เนียง) อ.มงคลบุรี จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา เมื่ออายุประมาณ 10 ขวบ ได้เรียนทั้งภาษาเขมรและฝรั่งเศส เนื่องจากในช่วงนั้นประเทศกัมพูชายังตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศสอยู่ ซึ่งท่านได้เรียนอยู่เพียง 3 เดือนก็ต้องออกจากโรงเรียน เนื่องจากได้รับผลกระทบมาจากสภาวะสงครามภายในประเทศ จากนั้นก็ได้หันมาประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวอยู่ระยะหนึ่ง แต่ก็ต้องหนีเอาตัวรอดเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เมื่อปีพ.ศ.2485 เนื่องจากเกิดสงครามภายในประเทศ และต่อมาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 ก็ได้ตัดสินใจอุปสมบทที่วัดทักษิณวารีสิริสุข อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้ตัดสินใจออกธุดงค์ เพื่อศึกษาสรรพวิชาต่างๆตามคณาจารย์ผู้เลื่องชื่อในขณะนั้นอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นก็ได้มาก่อสร้างสำนักสงฆ์อยู่ที่หมู่บ้านหนองยาว ต.กระเทียม อ.สังขะ ซึ่งต่อมาสำนักสงฆ์แห่งนี้ก็คือ วัดอินทราสุการามในปัจจุบัน จนกระทั่งท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2549 รวมสิริอายุได้ 103 ปี โดยศิษยานุศิษย์ ได้บรรจุสรีระสังขารของหลวงปู่เจียมไว้ในโลงแก้ว เพื่อให้เห็นสรีระสังขารที่ ไม่เน่า ไม่เปื่อยของท่าน โดยตั้งไว้ภายในกุฎิซึ่งเป็นห้องปรับอากาศ ในวัดอินทราสุการาม เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้บูชา.

 

 

 

 

นพรัตน์  กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  จ.สุรินทร์ รายงาน