ขนมค้างคาวของว่างไทยโบราณ ที่ยังเหลืออยู่ให้ชาวสงขลาได้กิน

วันที่ 22 ก.ย.  2567 นี่เป็นร้านขายขนมค้างคาวของว่างไทยโบราณ ของนางวิภา วงศ์วินิจฉัย อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 31 ถนนนางงาม อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ซึ่งเปิดขายเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ รวมทั้งวันหยุดนักขัตฤกษ์ เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 09:00 น เป็นต้นไป ซึ่งคุณวิภาฯเปิดขายเป็นอาชีพเสริม จากการเปิดร้านขายของชำ ในช่วงวันหยุดเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และเป็น1 ใน 2 ร้านที่มีเหลืออยู่ในเมืองสงขลาเท่านั้น เนื่องจากถนนนางงามในช่วงวันหยุดจะมีประชาชนจะออกมาหาของกินกันมาก เพราะมีร้านขายอาหารอร่อยๆหลากหลายให้เลือกซื้อที่ถนนนางงามแห่งนี้ ขนมค้างคาว ของว่างไทยโบราณ ซึ่งคนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จักและไม่เคยเห็น ขนมค้างคาวสมัยนี้หาทานได้ยาก รูปร่างจะเหมือนกับค้างคาว เป็นขนมประเภททอด ปั้นให้เป็นรูปสามเหลี่ยมปิรามิด แล้วนำไปทอดในกระทะที่ความร้อนปานกลาง จนกรอบทั้ง 3 ด้าน แบบที่เรียกว่ากรอบนอกนุ่มใน โดยมีสูตรวัตถุดิบหลักประกอบด้วย แป้งข้าวเหนียว กะทิ มะพร้าวขูด กุ้งสด พริกไทยดำ น้ำตาลปี๊บ

 

ที่ผ่านมาคุณวิภาฯ ได้เคยเป็นลูกมือไปช่วยทำขนมค้างคาวให้กับนางสมเพียร ทองเรืองหรือป้าสม มาเป็นเวลานานและมีความสนใจในการทำขนมค้างคาว จึงได้ขอสูตรการทำขนมค้างคาวจากป้าสม เพื่อนำไปประกอบอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง จนสามารถทำขนมค้างคาวของว่างไทยโบราณจนมีความชำนาญและรสชาติอร่อยกรอบนอกนุ่มในตามสูตรของป้าสมและได้นำออกมาวางขายบริเวณหน้าร้านขายของชำของตนเองที่ถนนนางงาม ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากสูตรขนมค้างคาวของป้าสมเป็นที่ยอมรับของลูกค้ามานานกว่า 30 ปี

นางวิภา วงศ์วินิจฉัย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำขนมค้างคาวขายมากว่า 5 ปีแล้วโดยได้สูตรมาจากนางสมเพียร (หรือป้าสม) ทองเรือง โดยมีสูตรหลักก็คือ แป้งข้าวเหนียว กะทิ มะพร้าวขูด กุ้งสด พริกไทยดำ น้ำตาลปี๊บ ในการทอดแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ขนมค้างคาวกรอบนอกนุ่มในทุกๆด้าน เพื่อความอร่อย สำหรับรสชาติของขนมค้างคาวหวานๆเค็มๆอยู่ที่ไส้ของมันและมีความกรอบ สำหรับราคาขายชิ้นละ 8 บาท เมื่อก่อนราคา 7 บาท 3 ชิ้น 20 บาท มันอยู่ราคานี้มานานแล้ว กว่า30 ปี ปัจจุบันปรับขึ้นเป็นชิ้นละ 8 บาท หากซื้อมากๆก็จะลดราคาให้อีก

จรัส  ชูศรี /จ.สงขลา