ชาวบ้านร้องนายทุนนำรถแบ็กโฮถางป่า ขุดเจาะภูเขาคล้ายเตรียมทำเหมือง

ชาวบ้านศรีมงคลร้อง นายทุนนำรถแบ็กโฮถางป่า ขุดเจาะภูเขาคล้ายเตรียมทำเหมืองแร่ สร้างความเสียหายให้กับป่าต้นน้ำ ล่าสุดน้ำในบ่อเริ่มเสีย ชาวบ้านใช้ประโยชน์ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จากชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลศรีมงคล อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ว่า มีกลุ่มนายทุนนำรถแบ็กโฮเข้ามาถางป่า พร้อมมีร่องรอยการขุดเจาะภูเขาที่เคยเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์จนพังเสียหาย ลักษณะคล้ายเตรียมทำเหมืองแร่ในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน
โดยชาวบ้านนำผู้สื่อข่าวเดินขึ้นไปบนเขาที่อยู่ห่างจากจุดที่ชาวบ้านสร้างบ้านอยู่อาศัยประมาณ 100 เมตร พบว่ามีร่องรอยการนำรถแบ็กโฮเข้ามาถางป่า จนกลายเป็นเส้นทางขนาดใหญ่พอให้รถยนต์ขับขึ้นมาได้ โดยพบว่าเส้นทางเดิมที่ชาวบ้านเคยใช้สัญจรและหาของป่า ที่มีความกว้างไม่ถึง1เมตร ปัจจุบัน ถูกปรับสภาพกลายเป็นถนนกว้างเกือบ3เมตร ต้นไผ่ รวมถึงต้นไม้น้อยใหญ่ที่ชาวบ้านเคยร่วมกันดูแลรักษา ถูกรถแบ็กโฮดันจนล้มระเนระนาด นอกจากนี้ ยังพบว่าหลายจุด มีร่องรอยการใช้รถแบ็คโฮขุดเจาะภูเขาและมีการใช้สีสเปรย์พ่นทับทำสัญลักษณ์คล้ายการขุดเจาะหาแร่ เพื่อเตรียมทำเหมือง

นายชลอ ประทีป อดีตกำนันตำบลศรีมงคล เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า พื้นที่ป่าบริเวณนี้เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเป็นป่าที่เป็นต้นน้ำของลำห้วยแม่กระบาล ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ตำบลศรีมงคล จำนวน 5 หมู่บ้าน ล้วนใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมถึงใช้ในการเกษตร ซึ่งการที่มีกลุ่มนายทุนเข้ามาใช้รถแบ็กโฮแผ้วถางป่าที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ดูแล้วน่าจะเข้ามาทำประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในป่าแห่งนี้ หากไม่ทำเหมืองแร่ ก็อาจจะทำไม้ เนื่องจากบนเขาแห่งนี้ เป็นแหล่งที่มีการพบแร่หลายชนิดรวมถึงมีต้นไม้ขนาดใหญ่อายุหลายสิบปีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่กังวลว่า จะสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของชาวบ้านเป็นอย่างมาก ในอดีตเมื่อประมาณสิบปีก่อน ก็เคยมีการนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุม กลุ่มนายทุนที่ลักลอบทำเหมืองในพื้นที่มาแล้วด้วย โดยพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้นำคณะจับกุม ได้เคยย้ำกับตนเองว่า ขออย่าให้ใครเข้ามาบุกรุกหรือทำลายป่าที่สมบูรณ์เช่นนี้อีก ขอให้ชาวบ้านช่วยกันรักษาไว้ให้ลูกหลานต่อไป

ขณะเดียวกัน ชาวบ้านยังได้พาผู้สื่อข่าวไปดูบริเวณบ่อกักเก็บน้ำ ซึ่งรองรับน้ำจากป่าต้นน้ำบนภูเขาแห่งนี้ ก่อนจะไหลไปลงลำห้วยแม่กระบาล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชาวบ้านตำบลศรีมงคล โดยนายบุญช่วย พรสุขสวัสดิ์ อายุ 72 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า ตอนนี้พบว่าสภาพของน้ำในบ่อเริ่มเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็น อันเป็นผลมาจากการขุดเจาะภูเขาและนำแร่ที่พบมาล้างในแหล่งต้นน้ำ ทำให้มีเศษดินและสิ่งสกปรกไหลมาตามน้ำ จนทำให้น้ำเริ่มเน่าเสีย สังเกตุได้จากพืชผักที่เคยขึ้นอยู่ในบ่อน้ำ ทั้งผักบุ้งและบัว ที่เริ่มมีอาการลำต้นเหลืองและมีกลิ่นเหม็น ซึ่งหากปล่อยให้มีการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำจึง ชาวบ้านเกรงว่าอาจจะทำให้น้ำในลำห้วยได้รับผลกระทบไปด้วย อีกทั้ง กลุ่มนายทุนที่นำรถแบ็กโฮเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเรือนของชาวบ้านเพียง 100 เมตร สร้างความเสียหายให้กับพืชผลที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้ พังเสียหายจำนวนมาก เมื่อชาวบ้าน เข้าไปสอบถามกับผู้ที่นำรถแบ็กโฮเข้ามาในพื้นที่ ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า พวกตนได้รับอนุญาติให้เข้ามาขุดเจาะสำรวจแร่เพื่อจะทำเหมือง เมื่อชาวบ้านถามว่าเหตุใดชาวบ้านในพื้นที่จึงำม่ทราบเรื่อง รวมถึงผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ทราบและไม่เคยมีการแจ้งเรื่องให้ทราบ กลับได้รับคำตอบว่าพวกตนได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่รวมถึงผู้ใหญ่บ้านทราบแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ชาวบ้านได้เคยแจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรโยคแล้ว ต้องรอดูว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้