รวบตัว 4 คนร้าย ปล้นเงินคริปโต นักท่องเที่ยวชาวยูเครน 8.5 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 11  พ.ย. 2567  ที่ สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.กมลา นำพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำ 4 ผู้ต้องหา ก่อเหตุร่วมกันปล้นเงินสกุลดิจิทัลคริปโตเคอร์เรนซี จำนวน 2.5 แสนยูเอสดีที หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 8.5 ล้านบาท โดยมีอาวุธ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดแก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น โดยได้ก่อเหตุจับผู้เสียหายชาวยูเครน บังคับให้โอนเงินสกุลดิจิทัลดังกล่าว เหตุเกิดในห้องพักย่าน ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อกลางดึกวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา

จากนั้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.กมลา นำกำลังชุดสืบสวน สภ.กมลา ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย จนทราบว่าได้ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมในพื้นที่ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มคนร้ายได้ทั้งหมดจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายมาราส แอนทรอย อายุ 21 ปี สัญชาติรัสเซีย นายอามาน กริกออไรอัน อายุ 21 ปี สัญชาติอาร์เมเนีย นายอัลเฟรด เซอร์นีซัก อายุ 18 ปี สัญชาติยูเครน และ นายรุสลัน มูซาอีฟ อายุ 22 ปี สัญชาติยูเครนควบคุมตัวกลับมาสอบปากคำ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดย 1 ใน 4 ผู้ต้องหารู้จักกับผู้เสียหายเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลกันเป็นประจำ จนรู้ว่าผู้เสียหายมีเงินคริปโตฯ เป็นจำนวนมาก จึงได้ร่วมกันวางแผนกับเพื่อนอีก 3 คนปล้นเงินคริปโตฯ จากผู้เสียหาย โดยมีการรีดเงินจากผู้เสียหายในครั้งแรกเป็นเงิน 5 แสนยูเอสทีดี หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 17 ล้านบาท แต่มีการต่อรองลงมาเหลือที่ 2.5 แสนยูเอสดีที หรือเป็นเงินไทยกว่า 8.5 ล้านบาท และมีการโอนเงินผ่านระบบเข้าบัญชีผู้ต้องหา จากนั้นได้หลบหนีออกจาก จ.ภูเก็ต จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวในที่สุด

สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ หลังก่อเหตุได้ว่าจ้างรถให้ไปส่งยังประเทศมาเลเซีย แต่คนขับรถปฎิเสธ กลุ่มคนร้ายจึงให้ไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยได้เปิดห้องวีไอพีไว้ 4 ห้อง แต่พักจริงเพียง 2 ห้อง เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ กระทั่งตำรวจแกะรอยจนพบตัวและเข้าจับกุม โดย 1 ใน 4 ผู้ต้องหารู้จักกับผู้เสียหาย เนื่องจากมีการซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลกันเป็นประจำ จนรู้ว่าผู้เสียหายมีเงินคริปโทฯ เป็นจำนวนมาก จึงได้ร่วมกันวางแผนกับเพื่อนอีก 3 คน ปล้นเงินจากผู้เสียหาย มีการรีดเงินจากผู้เสียหายในครั้งแรกเป็นเงิน 5 แสนยูเอสทีดี หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 17 ล้านบาท แต่มีการต่อรองลงมาเหลือที่ 2.5 แสนยูเอสดีที หรือเป็นเงินไทยกว่า 8.5 ล้านบาท และมีการโอนเงินผ่านระบบเข้าบัญชีผู้ต้องหา คดีนี้ ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง (ผกก.สภ.กมลา) นำกำลังชุดสืบสวน สภ.กมลาร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด หลังก่อเหตุปล้นเงินเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย.  ที่ผ่านมา

จิระชัย เกษมพิมลพร /จ.ภูเก็ต