โชว์ผลงาน ผอ.สำนักป้ายแดง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตชด. ฝ่ายปกครอง รวบมอดไม้ 2วันติด ขยายผลต่อเจอไม้ประดู่แปรรูปอีกเพียบ

วันนี้ 3 ธันวาคม 2567 นายไชยวุฒิ อารีย์ชน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ได้เปิดเผยว่าได้สืบทราบมาว่าจะมีการขนไม้แปรรูปที่ไม่ได้รับอนุญาต มาทางถนนสายอ่างเก็บน้ำเขาเขียว หมู่ 2 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จึงให้นาย ไพโรจน์ เขียวแก้ว หน.หน่วยกจ.1 ประสาน นายนายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่ตั้งด่านสกัดจับ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ กจ.1 (ท่าเสา) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7 (บ้องตี้) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)กรมอุทยาน สนธิกำลังออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีอย่างเคร่งครัด

โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2567 นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ กจ.1 (ท่าเสา) ได้รับแจ้งจากนายสยาม ทองใบ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า (พร.) ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) ว่าพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีดำ หมายเลขทะเบียน บบ 4099 ราชบุรี บรรทุกไม้แปรรูปไปตามถนนสายอ่างเก็บน้ำเขาเขียว หมู่ 2 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งจึงนำกำลังข้างต้นเดินทางไปสมทบ พร้อมประสานกำนันตำบลวังกระแจะ อ.ไทรโยค เดินทางไปร่วมตรวจสอบ

ไปถึงพบเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะพร้อมควบคุมตัวนายอนุชา (ขอสงวนนามสกุล) คนขับเอาไว้แล้ว จากการตรวจสอบพบไม้แปรรูปอยู่บนรถยนต์กระบะ จำนวน 3 แผ่น จากนั้นจึงนำตัวนายอนุชา ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) โดยนายอนุชา แจ้งว่าตนได้รับการว่าจ้างจากนายทุนรายหนึ่งให้นำไม้แปรรูปไปส่งในพื้นที่บ้านหนองสามพราน ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 2,500 บาท และนอกจากนี้ยังมีไม้แปรรูปอีกจำนวนหนึ่งซุกซ่อนเอาไว้ภายในบ้านในพื้นที่ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่จึงให้นายอนุชา นำไปตรวจสอบ ไปถึงพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในพบไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 3 แผ่น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายมาเก็บรักษาเอาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) และจากการตรวจสอบไม้ประดู่แปรรูปทั้ง 6 แผ่น เป็นไม้สภาพใหม่สดโดยไม่มีรอยดวงตราตีประทับเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงนำตรามาตีประทับตรวจยึด ซึ่งไม้ทั้ง 6 แผ่นมีมูลค่าตามท้องตลาดประมาณ 41,300 บาท หลังจากนายอนุชา ยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ กจ.1 (ท่าเสา) เปิดเผยว่า ต่อมาวันที่ 30 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7 (บ้องตี้) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ กจ.1 (ท่าเสา) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 136 ได้ร่วมกันออกลาดตระเวนปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
เมื่อไปถึงป่าบ้านทุ่งมะเซอย่อ หมู่ 4 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงดังคล้ายเลื่อนโซ่ยนต์มาจากภายในป่าบนภูเขา เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเดินเท้าขึ้นไปบนเขาซึ่งเป็นต้นทางของเสียงเลื่อยโซ่ยนต์ เมื่อไปถึงพบชาย จำนวน 2 ราย กำลังช่วยกันใช้เลื่อยโซ่ยนต์โค่นต้นประดู่ และตัดออกเป็นท่อน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวชายทั้ง 2 รายเอาไว้ ทราบชื่อคือนายกิตติศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี และนายเสกสรร (ขอสงวนนามสกุล) ทั้งสองเป็นชาว ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จากการตรวจสอบโดยรอบพบต้นประดู่ถูกตัดโค่นลักษณะล้มคาตอ โดยถูกตัดออกเป็นท่อน จำนวน 6 ท่อน พร้อมเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึงพวกตนทั้งสองกำลังเก็บข้าวของและอุปกรณ์เลื่อนโซ่ยนต์เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านพัก เพราะพวกตนตัดทอนต้นไม้ออกเป็นท่อนเสร็จแล้ว ซึ่งพวกตนได้ตัดโค่นต้นประดู่ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.และตัดทอนเป็นท่อนแล้วเสร็จในเวลาประมาณ 17.00 น. ส่วนไม้ที่ได้มาต้องการนำไปแปรรูปเพื่อสร้างบ้านอยู่อาศัย หลังจากผู้ต้องหาทั้งสองยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยคดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป