จังหวัดตราดเปิดกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพและเชื่อมโยงเศรษฐกิจระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกสู่นานาชาติ เชื่อมโยงการค้าชายแดน และติดอาวุธทางเทคโนโลยี่Ai ให้ผู้ประกอบการธุรกิจสร้างมูลค่าการค้าทั้งไทยและเทศ

จ.ตราด/เวลา 13.00 น.วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่โรงแรมตราดซิตี้ อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด นายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจ.ตราด กล่าวต้อนรับนายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ที่เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน เสริมสร้างศักยภาพและเชื่อมโยงเศรษฐกิจระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกสู่นานาชาติ ภายใต้โครงการยกระดับสินค้าเด่นภาคตะวันออกเพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดเชื่อมโยงสู่การค้าชายแดน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด โดยนางวรัญญา ถนอมพันธ์ พาณิชย์จ.ตราด เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น มีพาณิชย์จังหวัดในภาคตะวันออกร่วมอบรมพร้อมผู้ประกอบการในจังหวัดตราด และจังหวัดในภาคตะวันออกร่วมกว่า 120 คน

นางวรัญญา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเชื่อมโยงตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศการค้าชายแดนและผ่านแดนในฐานะที่ภาคตะวันออกเป็นแหล่งผลิต สินค้าเกษตรสร้างมูลค่าที่สำคัญของประเทศ และเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของสินค้าจากภาคตะวันออก รวมทั้งเพื่อยกระดับศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจจาก Local Entrepreneur สู่การเป็น International Smart Entrepreneu ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะมีกิจกรรมอบรม The New Gen Entrepreneur To Be Potential In Marketing ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2567 ซึ่งมีผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก จำนวน 80 ราย และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภาคตะวันออก จำนวน 10 ราย เข้ารับการอบรม ความรู้ในการทำธุรกิจร่วมกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern trade) ความรู้ในการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศ ความรู้ในการสร้างโอกาสทางการค้าในประเทศ และความรู้การทำการค้าในยุค Marketing 6.0

 

 

 

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย จากการเป็นพื้นที่เศรษฐกิจฐานอุตสาหกรรมหลัก โดยเป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เป็นศูนย์กลาง ด้านโลจิสติกส์ที่สำคัญ ทั้งท่าเรือน้ำลึก และท่าอากาศยานนานาชาติเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งเพาะปลูกผลไม้หลักที่สำคัญของประเทศเช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ฯลฯ ซึ่งมีปริมาณการผลิตเพียงพอสำหรับใช้บริโภคภายในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศ สามารถสร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่นเป็นจำนวนมากการค้าชายแดนนอกจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้ประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ สร้างงาน กระจายไปยังพื้นที่ชายแดนที่อาจมีความเจริญน้อยกว่า ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดน และ ดึงดูดให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ชายแดนแล้ว ยังเป็นปัจจัย ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สร้างความร่วมมือ และพยุงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งจากปัจจัยทางการเมืองอีกด้วย การอบรมครั้งนี้จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้มแข็ง และมีศักยภาพแข่งขันผู้ประกอบการกับต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการอยู่แล้ว

 

 

 

 

หลังจากเป็นประธานเปิดกิจกรรมแล้ว นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า พื้นที่ในภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในเรื่องการค้าชายแดนกับกัมพูชาซึ่งส่งผลดีต่อการค้าขายชายแดนที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น การจัดอบรมครั้งนี้อกจากจะช่วยในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการแล้วยังจะทำให้เกิดมูลค่าการค้าขายชายแดนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเรายังใช้เทคโนโลยี่ด้าน Ai มาช่วยผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำมาใช้ในการค้าขายด้วยซึ่งจะเป็นการติดอาวุธทางเทคโนโลยี่ให้ผู้ประกอบการในการทำธุรกิจการค้าทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ฑูตพาณิชย์ในประเทศต่างๆจะช่วยการชี้ช่องในการค้าขายในประเทศกัมพูชาและเพื่อนบ้านได้มากขึ้น ที่ผ่านมาทางพาณิชย์จังหวัดก็ได้เข้าไปสำรวจพื้นที่มาแล้วซึ่งเป็นผลดีต่อการเพิ่มมูลค่าการค้าให้มากขึ้นด้วย