ตร.สรุปผลงานประจำปี 2567 จับกุมคดีอาญาได้เกือบ 5 แสนคดี คดียาเสพติดกว่า 2 แสนคดี คดีออนไลน์อีกว่า 3 หมื่นคดี พร้อมเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท เพื่อความผาสุกแก่ประชาชน

วันนี้ (30 ธันวาคม 2567) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ตำรวจทุกหน่วยดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกมิติ ตามนโยบายรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเคร่งครัด จริงจัง และต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมามีผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ โดยผลงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี 2567 ในส่วนของการดำเนินคดีความผิดอาญา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2567 รวมทั้งหมดกว่า 500,000 คดี จับกุมได้ 479,516 คดี คิดเป็นร้อยละ 93 แบ่งเป็น

1. คดีอาญา 5 กลุ่ม ทั้งหมด 218,421 คดี จับกุมได้ 196,148 คดี ผู้ต้องหา 237,223 คน
1.1 ประเภทความคดีผิดอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ 2,280 คดี จับกุมได้ 2,158 คดี ผู้ต้องหา 3,003 คน คิดเป็นร้อยละ 95
1.2 ประเภทคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ 16,618 คดี จับกุมได้ 15,790 คดี ผู้ต้องหา 21,273 คน คิดเป็นร้อยละ 95
1.3 ประเภทคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ 42,330 คดี จับกุมได้ 39,308 คดี ผู้ต้องหา 47,297 คน คิดเป็นร้อยละ 93
1.4 ประเภทคดีที่น่าสนใจ 32,582 คดี จับกุมได้ 17,514 คดี ผู้ต้องหา 21,238 คน คิดเป็นร้อยละ 54
1.5 ประเภทคดีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย 124,611 คดี จับกุมได้ 121,378 คดี , ผู้ต้องหา 144,412 คน คิดเป็นร้อยละ 97

2. การปราบปรามยาเสพติดนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล : สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติด ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมด 249,029 คดี จับกุมได้ 241,607 คดี ผู้ต้องหา 250,878 คน ในจำนวนนี้เป็นการจับกุมข้อหาความผิดร้ายแรง 34,959 คดี ยึดทรัพย์ 118,836 รายการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท ออกหมายจับ 1,362 หมาย ดำเนินคดีฟอกเงิน 208 ราย ยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 1,026 ล้านเม็ด , ไอซ์ 33,136 กิโลกรัม , เฮโรอีน 1,955 กิโลกรัม , ยาอี 203,692 เม็ด , เคตามีน 5,000 กิโลกรัม และอื่นๆ

3. คดีความผิดเฉพาะทาง เช่น ความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก , ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ เป็นต้น จับกุมได้ 8,050 คดี ผู้ต้องหา 9,422 คน

4. การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี การพนันออนไลน์ : ถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนดำเนินการอย่างจริงจังในทุกมิติ รับแจ้งความออนไลน์รวม 305,762 เรื่อง ความเสียหาย 35,416 ล้านบาท ขออายัดบัญชี 336,943 บัญชี อายัดได้ 7,326 ล้านบาท สถิติประเภทคดีที่เกิดสูงสุด ได้แก่ หลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการ (ไม่เป็นขบวนการ) , หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ , หลอกให้กู้เงิน , หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ , ข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call
Center) โดยระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 จับกุมได้ 33,280 คดี ผู้ต้องหา 33,635 ราย ออกหมายจับ 871 หมาย แยกเป็น
4.1 การหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน 2,901 คดี ผู้ต้องหา 2,896 ราย
4.2 การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย 4,858 คดี ผู้ต้องหา 4,973 ราย
4.3 การเผยแพร่ข่าวปลอมและความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 6,117 คดี ผู้ต้องหา 5,857 ราย
4.4 การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก สตรีทางอินเตอร์เน็ตและค้ามนุษย์ 340 คดี ผู้ต้องหา 445 ราย
4.5 การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติอื่น ๆ 15,395 คดี ผู้ต้องหา 15,885 ราย
4.6 ความผิดประเภทซิมผี บัญชีม้า 3,669 คดี ผู้ต้องหา 3579 ราย

5. คดีอื่นๆ จับกุมได้ 431 คดี ผู้ต้องหา 826 คน

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมและคดีที่ประชาชนให้ความสนใจที่สำคัญ ได้แก่
1 คดีฉ้อโกง บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด : มีผู้เสียหายแจ้ง 10,352 ราย ยอดความเสียหายเกือบ 3,000 ล้านบาท ได้ออกหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหา 18 ราย พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินหลายรายการ

2. คดีฉ้อโกงทอง บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จ จำกัด (คดีทองแม่ตั๊ก) : รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย ยึดอายัดรถยนต์หรู 6 คัน และเงิน 20 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 70 ล้านบาท พบเป็นผู้เสียหาย 3,827 ราย ความเสียหาย 130 ล้านบาท

3. คดีฉ้อโกงประชาชนจับกุมยูทูบเบอร์นัตตี้ : ออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย รวม 15 หมายจับ มีผู้เสียหาย 6,000 คน มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท ประสานขอความร่วมมือตำรวจต่างประเทศ และตำรวจสากล นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายกลับมาดำเนินคดีในประเทศได้สำเร็จ

4. คดีไฟไหม้รถบัสนักเรียน : แจ้งข้อกล่าวหากลุ่มผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่ คนขับรถเจ้าของรถและผู้ประกอบการ ในความผิดเกี่ยวกับกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส และไม่หยุดแสดงตัวต่อเจ้าพนักงาน และสืบสวนขยายผลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่น เช่น ผู้ดัดแปลง ติดตั้งถังแก๊ส ผู้ตรวจสภาพ

5. เปิดยุทธการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและจัดตั้งศูนย์ปราบปราบผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายรายสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) : ปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมแก๊งอาชญากรรม, เงินกู้นอกระบบ , ผู้มีอิทธิพล , ฮั้วประมูล, บุกรุกที่สาธารณะ 2 ยุทธการ ได้แก่ ยุทธการ “พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767” ตรวจค้น 183 จุด 200 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา 87 ราย พร้อมอาวุธปืน 880 กระบอก , อาวุธสงคราม , เครื่องกระสุน 6,946 นัด , ยาบ้า 7,726,626 เม็ด และอื่นๆ จำนวนมาก โดยเป็นคดีที่สำคัญ เช่น แก๊งฮั้วประมูลกำนันนก , แก๊งยาเสพติด จิ๊บไผ่เขียว อยุธยา เป็นต้น และยุทธการ “CIB ขยี้อิทธิพล” ตรวจค้น 118 จุด จำนวน 121 จับกุมผู้ต้องหา 102 ราย พร้อมอาวุธปืน เครื่องกระสุน ยาเสพติด และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ โดยเป็นคดีที่สำคัญ เช่น กลุ่มขบวนการโจรกรรมรถทั่วประเทศ, ลักลอบค้าสัตว์ป่า จ.ราชบุรี, ตลาดที่มีคนต่างด้าว พื้นที่เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร , ยุทธการปราบปรามผู้มีอิทธิพลพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดอื่น ๆ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดสวัสดิการ แก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจ : โดยได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินโดยเร่งรัดแก้ไขปัญหาในกลุ่มสีแดง (ถูกฟ้อง) และกลุ่มอื่นๆ ในภาพรวม รวมทั้งปลูกฝังความรู้และปรับเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องเกี่ยวกับการบริหารการเงินและวินัยทางการเงิน รวมทั้งความรู้ในเรื่องการลงทุนและการออมให้แก่ตำรวจตั้งแต่เป็นนักเรียนตำรวจ และบรรจุลงในหลักสูตรต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีข้าราชการตำรวจ ลูกจ้าง สมัครเข้าร่วมโครงการ 11,810 ราย แก้ไขหนี้สินสำเร็จ 7,835 ราย เป็นเงิน 10,804 ล้านบาท

และล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบของขวัญปีใหม่ประชาชน จำนวน 5 โครงการ ได้แก่
1. โครงการ Cyber Check : ช่วยคัดกรองมิจฉาชีพจากเบอร์โทรปริศนา รวมทั้งใช้ตรวจสอบเลขบัญชีธนาคารก่อนจะโอนเงิน
2. โครงการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน นักท่องเที่ยว ผ่านแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police แนะนำข้อมูลข่าวสารแก่นักท่องเที่ยว
3. โครงการบูรณาการระบบบริหารรับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยว 1155 และศูนย์ประสานงานการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวแบบรวมศูนย์
4. โครงการส่วนลดพิเศษสำหรับที่พัก The Cop Hotel and Villa Pattaya สำหรับข้าราชการตำรวจและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าพักได้ ในราคาพิเศษ
5. โครงการห้องพักทั่วไทย จากใจตำรวจทางหลวง 205 แห่ง ทั่วประเทศ (20 ธันวาคม 2567 ถึง 10 มกราคม 2568) รวมทั้งมีจุดกางเต็นท์สำหรับสายแคมป์ปิ้ง โดยบริการฟรีทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล และปรับวิธีคิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างจริงจัง ต่อเนื่องโดยเฉพาะคดียาเสพติด อาชญากรรมออนไลน์ ฉ้อโกงประชาชน ผู้มีอิทธิพล ฯลฯ เน้นการปฏิบัติหน้าที่ตามยุทธวิธีตำรวจ หลักกฎหมาย สุจริต โปร่งใส เพื่อให้ความผาสุกเกิดแก่ประชาชนต่อไป