ผู้การชลบุรี สั่งล่า 2 โจรบุกเข้าบ้านคนจีน งัดตู้เซฟ ยังไม่ชี้มูลค่าทรัพย์สินที่หาย ต้องรอเจ้าของตัวจริงออกมายืนยัน

ความคืบหน้า กรณี คนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุงัดบ้านนักธุรกิจชาวจีน ( ทำบริษัททัวร์ในประเทศไทย ) เลขที่ 189/113 ภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง หมู่ 11 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แล้วขึ้นไปงัดตู้เซฟใบขนาดใหญ่ ในห้องพักชั้น 2 ก่อนจะกวาดทรัพย์สิน – นาฬิกาข้อมือราคาแพง ร่วมมูลค่ากว่า 100 ร้อยบาท ตามที่มือข่าวเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14:00 น. ( 17 มกราคม 68 ) ที่ห้องประชุม สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี นั่งหัวโต๊ะ เรียกประชุมชุดสืบสวน จากหลายหน่วยงาน ทั้ง สืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ , สืบสวนภาค 2 , สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี , ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3 จังหวัดชลบุรี , ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี และ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อสรุปความคืบหน้าของคดี
พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า ยอมรับว่าคดีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยคนร้ายฉวยโอกาสที่ผู้เสียหายออกไปข้างนอก กลับมาก็เพราะว่าตู้เซฟโดนงัด แต่ไม่ทราบว่ามีทรัพย์สินอะไรหายไปบ้าง เนื่องจากเจ้าของตู้เซฟเป็นชาวจีนเหมือนกัน ปัจจุบันยังอยู่ที่ประเทศจีน ส่วนตอนแรกที่เป็นข่าวว่าทรัพย์สินมูลค่า 100 กว่าล้านตอนนี้ตำรวจยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีอะไรอยู่ในตู้เซฟบ้าง เพราะเจ้าของตู้เซฟตัวจริงยังอยู่ที่ประเทศจีน ยังไม่ได้นำหลักฐานแสดง หรือ ชี้แจงกับตำรวจ โดยเจ้าของตัวจริงมีการนำตู้เซฟมาไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวเมื่อหลายปีก่อน ส่วนชาวจีนที่พักอยู่ภายในบ้านพบว่าเป็นเพียงญาติของเจ้าของบ้านและเพิ่งเข้าพักได้เพียงแค่ 4 เดือน โดยถือวีซ่านักท่องเที่ยว จึงไม่สามารถบอกได้ว่าภายในตู้เซฟมีทรัพย์สินอะไรอยู่บ้าง แต่จากการตรวจ ในที่เกิดเหตุ พบเพียงกล่องใส่นาฬิกาเปล่า ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป อยู่ประมาณ 8 กล่อง และ ไม่ใช่กล่องใส่นาฬิกาหรูราคาแพง

ส่วนแนวทางการสืบสวน และ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีการเกิดเหตุขึ้นจริง โดยคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน เข้าไปก่อเหตุภายในบ้านหลังดังกล่าว และเชื่อว่าคนร้าย ต้องรู้ข้อมูล และเคย เข้า-ออก บ้านหลังนี้ เบื้องต้นมีการสั่งการให้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับบ้านหลังนี้มาสอบปากคำทั้งหมด พร้อมทั้งแกะรอยกล้องวงจรปิด ติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้โดยเร็ว
ระหว่างที่มีการประชุม ผู้สื่อข่าวสามารถบันทึกภาพกล้องวงจรปิด ที่นำมาแสดงในการประชุม จะพบว่ากล้องวงจรปิดภายในบ้านหลังเกิดเหตุเกิด สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน ยืนอยู่ในความมืด ซึ่งเวลาของกล้องระบุไว้ที่ 11-12-24 เวลา 00.49.59 น. ซึ่งเป็นไปได้ว่ากล้องวงจรปิดอาจมีการตั้งวันที่ไม่ถูกต้อง

 

 

ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี