รวบทันควัน! มือทุบรถมูลนิธิฯ ตำรวจเร่งออกล่าเพียงข้ามคืน โดนรวบเรียบร้อย

สืบเนื่องจากจากเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 68 ผู้เสียหาย 2 ราย ที่โดนทุบรถ เข้าแจ้งความที่สภ. ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ว่ารถโดนทุบที่ไฟท้าย และไซเรนเสียหายทั้งหมด 3คัน พร้อมกับหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ให้เห็นพฤติกรรมของคนร้ายที่มาก็เหตุทุบไฟรถ พร้อมกับได้เล่าถึงพฤติกรรมต่างๆที่คนร้ายคนนี้เคยก่อเหตุมาหลายครั้งให้กับทางร้อยเวร สภ.ลูกแกได้ทราบถึงพฤติกรรมก่อนหน้านี้ ซึ่งคนร้ายได้สร้างวีรกรรมไว้มากมายและยังเคยติดคุกมาแล้วอีกด้วย ผู้เสียหายได้ฝากฝังให้ตำรวจรีบจับตัวให้ได้โดยเร็ววัน เพราะกลัวจะไปก่อนเหตุที่อื่นไปอีก

ล่าสุดวันที่ 4 มีนาคม 68 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.รัชพล กิตติคุณชนก ผกก.สภ.ลูกแก ได้แจ้งไปทางผู้เสียหายว่าสามารถรวบตัวคนร้ายได้เรียบร้อยแล้ว นายเฉลิมพล ผู้เสียหายพร้อมญาติๆ จึงรีบมาดูตัว เนื่องด้วย พ.ต.อ. รัชพล กิตติคุณชนก ผกก.สภ.ลูกแก เห็นว่าบุคคลนี้ถือว่าเป็นบุคคลอันตรายในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะไปทำร้ายชาวบ้านได้ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.สมศักดิ์ แสงสุวรรณ สว.สส.สภ.ลูกแก พร้อมด้วยสายตรวจรถยนต์นำโดย พ.ต.ท. สำราญ มาลาลักษมี สวป.สภ.ลูกแก ได้ออกตามคนร้ายตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 68 โดยวางกำลังไปเฝ้าตามจุดต่างๆ และห้องที่คนร้ายเช่าอยู่ ซึ่งในวันที่ 3 นั้นยังไม่พบตัวของคนร้าย และในวันนี้วันที่ 4 มีนาคม 68 ชุดสืบได้ลงพื้นที่ตามจุดต่างๆอีกครั้ง และก็ได้พบคนร้าย ได้วกกลับมาที่ห้องเช่าที่ตัวเองพักอยู่ หลังจากที่ได้ซุ่มดูอยู่สักพักเห็นว่าคนร้ายได้เข้าไปอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้วจึงแสดงตัวเข้าจับกลุ่ม เมื่อช่วงเวลา 10:00 น. ได้ที่บ้านเช่า ม. 9 ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

หลังจากจับกลุ่มเรียบร้อยแล้วได้นำตัวมาที่ สภ.ลูกแก แล้วจึงได้ส่งตัวให้กับ ร.ต.ท. พัฒนศักดิ์ เปรมปี่ดิ์ ร้อยเวร สภ.ลูกแก สืบสวนสอบสวน หลังสืบสวนเรียบร้อยแล้วคนร้ายได้รับสารภาพว่า ได้ทุบรถจริง แต่ทุบแค่ 2 คัน ไม่ได้ทุบ 3 คัน และก็ไม่ได้เข้าไปหลังรถของรถมูลนิธิด้วย
แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่หลังสอบสวนแล้วได้แจ้งข้อหา ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหารายนี้ส่งตัวฟ้องยังศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อไป
ผู้ก่อเหตุชื่อนาย ชนชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี หลังจับมาที่สภ. ลูกแก ก็ได้แต่นอนฟุบอยู่ที่โต๊ะในห้องสืบสวน แต่เมื่อเข้าไปพูดคุยด้วย ก็เหมือนคนเมาอะไรบางอย่าง พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดวกไปวนมา ขนาดกาแฟปั่นที่ญาติของคนร้ายซื้อมาให้กิน ยังไม่ใช้หลอด ใช้กุญแจรถเขี่ยขึ้นมากิน ทั้งๆที่หลอดก็อยู่ข้างๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าทำไปทำไม นายชนชาย(คนร้าย) บอกว่า เมามั้งอะไรมั้ง พร้อมได้ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า เคยมีเรื่องไหม ถ้าเคยมีก็อารมณ์เดียวกัน ก็ทำไปแล้วก็ไม่ต้องมาถามเหตุผล

 
 
 

ทางด้านผู้เสียหาย นาย เฉลิมพล หงษ์ยนต์ ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ว่าทำงานได้รวดเร็วมากๆ “ได้รับแจ้งจากตำรวจว่าจับได้แล้ว ต่อไปก็ให้ไปเป็นกระบวนการ เพราะรถเราไว้ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ ไม่น่ามาทำ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทางสถานีตำรวจสภ. ลูกแก ขอบคุณท่านผู้กำกับ ขอบคุณสารวัตรสืบ รองผู้กำกับ เจ้าหน้าที่ทุกนายที่ร่วมทำคดีนี้ ถือว่าตำรวจทำงานได้รวดเร็วมาก” นายเฉลิมพลกล่าว….

 
 กีรติ ก้อนทองคำ ผู้สื่อข่าวจ.กาญจนบุรี