ตำรวจแปดริ้ว รวบขบวนการลักรถจักรยานยนต์ขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน

วันที่ 13 มีนาคม 2568 ตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราได้เปิดแถลงข่าวรวบขบวนการรักรถจักรยานยนต์ขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน สืบเนื่องด้วยวันที่ 11 มีนาคม 2568 ช่วงเวลา 09.00 น-14.00 น.สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายจำนวน 4 รายว่ารถจักรยานยนต์ของตนให้หายไปจากจุดที่จอดไว้อาจจะถูกคนร้ายรับเอาไป พล.ต.ต เกรียงไกร บุญซ้อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทราจึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ต.อ กิตติสัณห์ ชนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา และ พ.ต.อ ภูริทัต บุญช่วย ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา สนธิกำลังร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายดังกล่าวดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุดเนื่องจากพฤติกรรมของคนร้ายกระทำการโดยองอาจไม่เกรงกลัวตามกฎหมายกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก
ตอนมาเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราได้ร่วมการจับกุมตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการรักรถจักรยานยนต์พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ถูกประทุษร้ายได้จำนวน 2 ราย คืน นายวัชรพงษ์(เต๋า) ขอสงวนนามสกุลอายุ 22 ปี นายภาณุ(ฟารีฟ) ขอสงวนนามสกุลอายุ 17 ปี โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการตราทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือร่วมกันรับของโจร

 

จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายจะขับขี่รถจักรยานยนต์ในเวลากลางคืนออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ตามอพาร์ทเม้นท์หอพักต่างๆในหลายท้องที่ เขตร่มเกล้า เขตทองหล่อ เขตคันนายาว และนอกเขตปริมณฑลอาทิเช่นจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นต้น โดยวิธีการของคนร้ายเมื่อพบรถจักรยานยนต์ที่ต้องการจะขึ้นไปนั่งบนรถจักรยานยนต์และทำการต่อสายตรงจากนั้นหักคอรถจักรยานยนต์โดยการใช้เท้าถีบคอรถจักรยานยนต์และเข็นรถจักรยานยนต์ออกจากจุดที่จอดรถเพื่อทำการลองติดเครื่องหากติดได้จะขับรถออกไปทันทีและจะนำไปจอดพักคอยเพื่อรอนายหน้าผู้รับซื้อ ต่อมาคนร้ายจะส่งข้อมูลรถจักรยานยนต์ที่รักเอามาให้กับนายหน้าผู้รับซื้อผ่าน application facebook โดยขายในราคาคันละประมาณ 12,000 บาท-17,000 บาท จากนั้นนายหน้าผู้รับซื้อจะขายต่อไปยังผู้รับซื้อคนที่ 2 โดยจะได้กำไรต่อคันประมาณ 3,000-5,000 บาท โดยผู้รับซื้อคนที่ 2 จะจ้างรถกระบะตู้ทึบผ่านทาง application ของบริษัทขนส่งเอกชนให้มารับรถเพื่อนำรถจักรยานยนต์ไปขายต่อที่จังหวัดชายแดนประเทศพม่าต่อไป

 

ด้าน พล.ต.ต เกรียงไกร บุญซ้อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทราได้สั่งการให้ทุกสถานีในพื้นที่กวดขันเพิ่มความเข้มในการตรวจตราป้องกันเหตุนักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่และส่วนผู้ร่วมกระบวนการที่เกี่ยวข้องได้ทำการสืบสวนสอบสวนชนทราบชื่อและได้ขออนุมัติหมายจับไว้แล้วซึ่งจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพข่าว/อาษา ปรีญาภรณ์ จันทร์พิทักษ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา