พลโท ชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 เดินหน้าลงพื้นที่รักษาความมั่นคงภายใน ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์

วันที่ 18 มี.ค.68 ที่ห้องประชุมศูนย์อำนวยการความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ พลโท ชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน. ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อประชุมหารือร่วมกับ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมี พันเอก จิตรกร จันทร์สว่าง รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ (ฝ่ายทหาร) และส่วนราชการในพื้นที่ ให้การต้อนรับ และร่วมประชุมหารือแนวทางเสริมสร้างความมั่นคงภายในจังหวัด

โดยการประชุม พลโท ชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน. ได้เน้นย้ำถึงมาตรการป้องกันภัยคุกคามด้านความมั่นคงชายแดน ด้านอาชญากรรมไซเบอร์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ โดยมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแจ้งเตือนภัย และการเฝ้าระวัง รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดยิ่งขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

จากนั้น พลโท ชนินทร์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจด่านพรมแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์   ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนที่สำคัญติดกับประเทศกัมพูชา เพื่อติดตามมาตรการเฝ้าระวังและสกัดกั้นอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการล่อลวงแรงงานไทยไปทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้เส้นทางชายแดนเป็นจุดลักลอบกระทำความผิดมากขึ้น โดยเฉพาะในห้วงนี้ในด้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์สามารถให้ความช่วยเหลือเหยื่อจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ที่ถูกบังคับให้ทำงานในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ได้ 18 ราย เป็นคนไทย 8 ราย ชาวเวียดนาม 4 ราย และชาวจีน 6 ราย

ทั้งนี้พื้นที่จังหวัดสุรินทร์  มีแนวเขตแดนติดกับประเทศกัมพูชา  มีความยาวกว่า 127  กิโลเมตร และมีช่องทางธรรมชาติ กว่า 19 ช่องทาง

พลโท ชนินทร์ ได้เสนอแนะให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการคัดกรองบุคคลและยานพาหนะที่เข้า-ออกด่านชายแดน พร้อมกำชับให้มีการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐทั้งในและนอกประเทศ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นขบวนการผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ใช้เทคโนโลยีและระบบข้อมูลอัจฉริยะในการตรวจสอบเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

 

 

 

 

กอ.รมน. ขอความร่วมมือจากประชาชน ให้เพิ่มความระมัดระวัง และหากพบพฤติกรรมที่น่าสงสัย หรือได้รับโทรศัพท์หลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้แจ้งเบาะแสกับหน่วยงานความมั่นคงทันที เพื่อให้สามารถดำเนินการปราบปรามและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที.

 

 

 

 

 

 

นพรัตน์ กิ่งแก้ว  ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์ รายงาน