“เรืองไกร” ยื่นหนังสือให้ กกต.สอบ นายชวาล สส.ชลบุรีเขต 3 พรรคปชช. กรณีทำหนังสือถึง “นายกอบต.โคกขี้หนอน” เข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือไม่

วันที่ 9 เม.ย. 2568 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ  สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบนายชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี ว่า กรณีทำหนังสือถึงนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกขี้หนอน

 

Screenshot

โดยมีการขอให้ออกคำสั่งด้วยนั้น เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (1) หรือไม่ มีการแจ้งบัญชีรายรับ-รายจ่ายต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  หรือไม่ และขอทราบเหตุผลที่ส่งเรื่องนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการนั้น ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กกต. ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายใด
นายเรืองไกร กล่าวว่า ในหนังสือร้องดังกล่าวมีความเป็นข้อ ๆ

 

ดังนี้
ข้อ 1. เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 กกต. ได้มีคำสั่งตามคำวินิจฉัยที่  76/2567 ว่า “จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องในประเด็นที่ 1 และให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายชวาล พลเมืองดี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 67 และมาตรา 155 ในประเด็นที่ 2 กรณีที่ 1 และกรณีที่ 2” ดังความควรแจ้งแล้วนั้น

ข้อ 2. ในคำสั่งดังกล่าว สำหรับประเด็นที่ 1 ที่ยกไปนั้น มีความส่วนหนึ่งระบุในหน้าที่ 2 ที่พอสรุปได้ว่า นายชวาล พลเมืองดี แจ้งค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งจำนวน 396,878.07 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ของ กกต. ชลบุรี ได้ตรวจและแจ้งให้มีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นจำนวน 402,458.07 บาท
ข้อ 3. แต่จากการตรวจสอบในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายชวาล พลเมืองดี ต่อ ป.ป.ช. กลับไม่พบรายจ่ายดังกล่าวตามที่ กกต. ตรวจไว้แต่อย่างใด กรณี จึงควรขอให้ กกต. ส่งเรื่องประเด็นที่ 1 ให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไปว่า นายชวาล พลเมืองดี ได้แจ้งบัญชีรายรับ-รายจ่ายต่อ ป.ป.ช. โดยครบถ้วน หรือไม่

ข้อ 4. จากการตรวจสอบบัญชีของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกือบทุกรายในการเลือกตั้งเขตที่ผ่านมา ไม่เคยพบว่า สส. ได้แจ้งรายรับรายจ่ายตามที่แจ้งต่อ กกต. ไว้แต่อย่างใด (ยกเว้นมีหนึ่งรายที่แจ้งรายรับจากพรรคการเมืองหนึ่ง) ดังนั้น จึงขอให้กกต. ส่งบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบยันยอดกันด้วย เพื่อจะได้ทราบว่า การที่ สส. เขต ไม่แจ้งรายรับ-รายจ่าย ป.ป.ช. นั้น จะเข้าข่ายแจ้งข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ หรือไม่

ข้อ 5. กรณีของนายชวาล พลเมืองดี หลังจากวันที่มีคำสั่งดังกล่าววันที่ 20 พ.ค. 2567 แต่ปัจจุบันพบว่า นายชวาล พลเมืองดี ยังทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี  ทั้งนี้เห็นได้จากเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 นายชวาล พลเมืองดี ได้มีหนังสือเลขที่ อบต.ชน 1/2568 เรียน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกขี้หนอน โดยในท้ายหนังสือดังกล่าว ได้ระบุข้อความส่วนหนึ่งว่า “… ขอความอนุเคราะห์ท่านออกคำสั่งให้หยุดขนดิน จนกว่าจะปรากฏข้อเท็จจริงประจักษ์ว่าชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองและกฎหมายว่าด้วยโรงงาน โดยขอให้ท่านตอบกลับเป็นหนังสือภายใน 7 วัน” ซึ่งหนังสือดังกล่าวลงลายมือชื่อโดยนายชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี

 

ข้อ 6. กรณีของนายชวาล พลเมืองดี ดังกล่าว จึงอาจเข้าข่ายเป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (1)

ข้อ 7. รัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (1) บัญญัติว่า
“มาตรา 185 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่ง การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกุวุฒิสภากระทำการใด ๆ  อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง  ของผู้อื่น  หรือของพรรคการเมือง  ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม   ในเรื่องดังต่อไปนี้
(1) การปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ  พนักงานหรือลูกจ้าง ของหน่วยราชการ  หน่วยงานของรัฐ  รัฐวิสาหกิจ  กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่  หรือราชการส่วนท้องถิ่น”

ข้อ 8. อนึ่ง เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 กกต. ได้มีหนังสือที่ ลต 0020/4823 โดยระบุว่า การร้องขอให้ตรวจสอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ นั้น ไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ กกต. แต่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช. จึงไม่รับเรื่องไว้ดำเนินการและให้ สนง.กกต. ส่งเรื่องดังกล่าวพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป นั้น ขอให้ กกต. ชี้แจงข้อกฎหมายให้ชัดเจนด้วย ทั้งนี้ เพื่อจะได้ไปติดตามเรื่องหรือให้เอกสารพร้อมทั้งให้ถ้อยคำต่อ ป.ป.ช. ต่อไป