พิธีเข้มขลัง ปลุกเสกเหรียญหลวงปู่เฮง เกจิดังอีสานใต้ รุ่น”เฮงสมใจนึก” สมทบทุนสร้างรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 เวลา 11.09 น.ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้มีพิธีพราหมณ์ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่ในช่วงบ่าย เวลา 13.09 น.จะมีพิธีพุทธาภิเษก เหรียญพระเครื่องรุ่น”เฮงสมใจนึก”ที่ระลึกอายุครบ 8 รอบ หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม (วัดบ้านด่านช่องจอม)สมทบทุนสร้างมณฑลรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก  โดยมีหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกเหรียญ ร่วมกับเกจิดังอีกหลายรูปอย่างเข้มขลังค์โดยมีนายศิริวุธ วงษ์เจริญ กำนันตำบลด่าน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส การจัดสร้างเหรียญพระเครื่องรุ่นดังกล่าว จัดสร้างโดยนายอรรถกร จินพละ (เฮียสมาย)

 

 

 

สำหรับเหรียญพระเครื่องรุ่นเฮงสมใจนึกมีเนื้อเหรียญหลากหลายแบบและรุ่น อาทิเนื้อเงินหน้ากากทองคำลงยา,เนื้อเงินลงยาเนื้อ,ลุ้นร่วมบุญพระบูชา, เนื้อโลหะ,พระบูชา, เนื้อเรซิ่น เป็นต้น ให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้เช่าบูชาในหลากหลายราคา ซึ่งได้รับความสนใจและถูกสั่งจองอย่างล้นหลาม โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและสั่งจองได้ที่  0850288287 เฮียสมายด์ หรือที่เฟสบุ๊ค ชื่อ SmileBikeโดยจัดสร้างทั้งหมด8พันกว่าเหรียญ

 

 

 

 

จากนั้นหลังเสร็จสิ้นพิธีปลุกเสกเหรียญพระเครื่องวัตถุมงคลดังกล่าว ยังได้มีการแจกเหรียญพระเครื่องรุ่นดังกล่าว จำนวน 2,499 เหรียญ ให้กับประชาชนพุทธศาสนิกชนที่มารอรับเหรียญกว่า2พันคน นอกจากนี้ยังมีเซียนพระมารอรับซื้อหรือรับเช่าต่อจากประชาชนอยู่ด้านหน้าเหรียญละ 200-300 บาทขึ้นไปแล้วแต่ชนืดของเนื้อเหรียญที่มีราคาต่างกันอีกด้วย

 

สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 96 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ

 

 

 

จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ

 

 

 

จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้ ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย.

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์