ยุคฝืดเคือง แม่ค้าขนมหวานขาดทุน พลิกแพลงมาขายหมูพวงแดดเดียวข้างทาง ขายดีไม่มีเหลือ วันละ 200 พวง

วันที่ 18 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในยุคที่สภาพเศรษฐกิจฝืดเคืองอยู่ในขณะนี้ ประชาชนต่างดิ้นรนทำมาหากิน โดยเฉพาะในช่วงว่างเว้นจากการทำไร่ทำนา ไม่ว่าจะเป็นการหาอาชีพเสริมค้าขายที่แตกต่างกันไปต่างๆนาๆ บางรายขายได้บ้างไม่ได้บ้าง ของเหลือเสียหาย ขาดทุนบ้างก็มี แต่ก็ต้องดิ้นรน พลิกแพลงหาสินค้าใหม่ๆมาวางขายเพื่อให้สามารถขายได้ ที่พอจะมีรายได้นำไปจุนเจือครอบครัว จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าน้ำมันรถที่มีราคาแพงและสูงขึ้นทุกวัน สวนทางกับค่าครองชีพที่เป็นอยู่

 

 

 

 

โดยเฉพาะนางปัญญา บวชสันเที๊ยะ อายุ 49 ปี แม่ค้าขายหมูพวงแดดเดียว ชาวบ.ด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์   จากเดิมเป็นแม่ค้าขายขนมหวาน โดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างต่อเป็นร้านขายขนมอยู่บริเวณข้างทางหนาตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ แม้จะขายขนมหวานมานาน แต่ต้องประสบปัญหาขาดทุน ของเหลือบูดเสีย จากราคากะทิและน้ำตาล รวมทั้งวัตถุดิบที่มีการปรับราคาสูงขึ้น ทนรับสภาวะขาดทุนไม่ไหว จึงพยายามคิดพลิกแพลงขายอาหารอย่างอื่นแทน  จนมาคิดทำหมูพวงทอดขาย พร้อมข้าวเหนียวแทนมาได้ประมาณ สัปดาห์แล้ว จนพบว่าได้รับการตอบรับและขายดีเป็นอย่างมาก แต่ละวันต้องใช้เนื้อหมูประมาณ 20  กิโลกรัม ในการมาหั่นซอยเป็นชิ้นเล็กๆก่อนคลุกเคล้าหมักเครื่องปรุงและนำมาเสียบไม้ โดยใช้ไม้เสียบลูกชิ้นแทน เพราะปกติแล้วหมูพวง เนื้อพวง จะใช้ตอกไผ่ ในการร้อยเนื้อ ซึ่งในพื้นที่หายาก ก่อนนำไปตากแดดเดียว ซึ่งเนื้อหมู 20 ก.ก. จะได้หมูพวง ประมาณ 200 พวง โดยนางนางปัญญา บวชสันเที๊ยะ จะขับรถ จยย.พวงข้าง มาจอดขายริมทางพร้อมกับแม่ค้าคนอื่นๆที่ริมทางดังกล่าวในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ของทุกวัน จนถึงเวลาประมาณ ทุ่มกว่าๆหรือจนกว่าจะขายหมดหรือไม่มีลูกค้าแล้ว

 

 

 

 

 

 

นางปัญญา บวชสันเที๊ยะ แม่ค้าขายหมูพวงแดดเดียว กล่าวว่า เมื่อก่อนตนขายขนมหวาน เปลี่ยนมาขายหมูพวง หมูแดดเดียว เปลี่ยนมาขายครึ่งเดือนแล้ว หลังๆของหวานขายไม่ดี กะทิก็แพง น้ำตาลก็ขึ้นราคา เหลือก็เสียอีก เลยลองขายหมูพวง ปรากฏว่าขายดี ลูกค้าเริ่มติดใจในรสชาติของเรา คนที่มาเที่ยวบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา ก็จะจอดรถตู้ลงมาซื้อกินทุกวัน ชาวบ้านทั่วไปก็มาซื้อ วันหนึ่งจะใช้หมู 20 ก.ก.ทำได้ประมาณ 200 ไม้ มีข้าวเหนียว มีน้ำพริกแจ่วขายเสริม เนื้อหมูราคาสูงอยู่ที่ราคา ก.ก.ละ 140 บาท จากปกติ ก.ก.ละ 150 บาท ตนซื้อเยอะเขาเลยลดให้ ลูกค้าซื้อแล้วก็กลับมาซื้อใหม่ เราไม่มีตอกเลยใช้ไม้เสียบลูกชิ้นเสียบแทน ขายพวงละ 20 บาท วันหนึ่งจะขายหมด 200 พวง บางวันก็เหลือนิดหน่อยไว้ทอดขายวันหลังได้ ตนขายข้างทาง ฝั่งตู้เอทีเอ็มออมสิน หน้าร้านวิเชียรพาณิชย์ ฝั่งตรงข้ามตลาดชายแดนช่องจอมของทุกวัน ฝากถึงแม่ค้าที่กำลังสู้ ขายของไม่ดี ก็ให้คิดพลิกแพลงหาสินค้าที่ยังไม่มีคนขาย มาลองขายดู ถ้าขายซ้ำเขาจะขายไม่ได้ อย่าท้อแท้และยอมแพ้ ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ต้องสู้และดิ้นรน แม่ค้าขายหมูพวงแดดเดียวฯกล่าว.

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว นพรัตน์  กิ่งแก้ว  ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์