ชาวบ้านห้วยต้อน จ.ชัยภูมิ แห่ออกหาแมงตับเต่า แมงดา มาเปิดเมนูเด็ด และขาย สร้างรายได้ช่วงหน้าแล้ง

มื่อวันที่ 3 ม.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านห้วยต้อน ได้ถือโอกาสในช่วงหน้าแล้งซึ่งตามท้องไร่ท้องนาจะมีปริมาณน้ำน้อยชาวบ้านจึงพาลูกหลานนำตาข่ายพร้อมสวิงออกหาช้อนแมงดา-แมงตับเต่า นำมาประกอบอาหาร พร้อมเป้นของฝากติดมือให้ลูกหลานไปกินที่ทำงานและส่วนที่เหลือแบ่งขายให้กับคนในหมู่บ้านเดียวกันโดยชาวบ้านห้วยต้อน ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ รวมตัวกันออกหาแมงดา และ แมลงตับเต่า นำมาประกอบอาหาร เเละส่งขายสร้างรายได้งามช่วงเริ่มต้นปีใหม่ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสช่วงหน้าแล้ง นำมาประกอบเป็นอาหารของฝากและจำหน่ายสร้างรายได้ในช่วงหน้าแล้ง

 

 

 

 

ด้านนาย สุรัตน์ ไฝชัยภูมิ อายุ 50 ปีชาวบ้านห้วยต้อน ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ตน และเพื่อนบ้าน ได้พากันมาหาแมงตับเต่า และแมงดา ตามท้องนา หลังจากที่ปริมาณน้ำในท้องนาลดลง เเละเริ่มแห้งขอด โดยใช้สวิงช้อนตามน้ำหรือผ้าเขียวผูกติดกับรถไถนาเดินตามเพื่อลากผ้าตาข่าย โดยลากไปตามน้ำและป่าหญ้า เพื่อหาแมงตับเต่าและแมงดา ที่อาศัยอยู่ในน้ำมาประกอบอาหาร เพราะช่วงหน้าแล้ง อาหารตามธรรมชาติหายาก จึงได้รวมกลุ่มกับเพื่อนบ้านออกมาหาแมงตับเต่า และ แมงดา เพื่อนำไปคั่วประกอบเป็นอาหารบางส่วนก็แบ่งให้ลูกหลานเป็นของฝากให้ลูกหลานห่อกลับไปกินยังที่ทำงานในต่างจังหวัดที่เหลือก็แบ่งขายให้กับเพื่อนบ้านในระแวกเดียวกัน อีกทั้งแมงตับเต่ายังถือเป็นโปรตีนชั้นดี มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยแมงตับเต่าจะขายได้ร้อยละ 40 คือหนึ่งร้อยตัวจะขายได้เงิน 40 บาท หรือ กก.ล่ะ200 บาท ส่วนแมงดา หากเป็นตัวเมียจะขาย ตัวละ 5 บาท ส่วนตัวผู้จะขายได้ตัวละ 10 บาท สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 300-500 บาท

 

 

 

 

ซึ่งเป็นการสร้างรายได้เสริมอีกทางหนึ่งในช่วงฤดูแล้งของชาวบ้าน สำหรับแมงตับเต่าหรือแมงดา สามารทำเมนูอาหารได้หลากหลายชนิด เช่นทอด ตำนน้ำพริก คั่ว แกงใส่หน่อไม้ดอง ซึ่งหนึ่งปีมีให้กินเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จึงเป้นที่ชื่นชอบของคนอีสานและผู้ที่ชอบเปิบเมนูแมงทอด เพราะหากได้มาสดๆจะมีหวานมันกรอบแซ่บมากในระยะนี้.

 

 

ภาพ/ข่าว วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ