ฉะเชิงเทรา “รองอาร์ม” เปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หลักสูตร ฝึกอบรมการทำกระเป๋าถักโครเชต์

วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 นายกลยุทธ ฉายแสง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา มอบหมายให้ นายมติชน ชูทับทิม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานพิธีเปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 หลักสูตรฝึกอบรมการทำกระเป๋าถักโครเชต์ มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมโครงการ ประกอบด้วย คนพิการและผู้ดูแลคนพิการในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 60 คน จัดอบรมระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์พัฒนาผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ มีความรู้และทักษะการทำกระเป๋าถักโครเชต์ เกิดการสร้างอาชีพ สามารถจำหน่ายหรือทำเก็บไว้ใช้ในครัวเรือน สร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว สามารถพึ่งพาตนเอง และลดการพึ่งพาผู้อื่น สามารถเข้าถึงสิทธิ์และใช้ประโยชน์จากการจัดสวัสดิการสังคมโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมโดยเสมอภาคบนพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป เปิดโอกาสให้คนพิการได้แสดงศักยภาพและเห็นคุณค่าของตนเอง ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสร้างความเข้มแข็งในชุมชนได้ อาษา/ปรีญาภรณ์,/ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันนี้ 21 พฤษภาคม 2568 ที่ ณ วัดก้อนแก้ว หมู่ที่ 4 ตำบลก้อนแก้ว อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา นางสาวฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายโชติพงศ์ เปล่งวิทยา นายอำเภอคลองเขื่อน กล่าวรายงาน พร้อมด้วย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ และเอกชน ผู้นำชุมชน อาสาสมัคร พอ.สว. สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา สมาชิกกิ่งกาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนเข้าร่วมพิธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กล่าวเปิดงานพร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดฉะเชิงเทรา และได้มอบชุดยาสามัญประจำบ้าน ถุงยังชีพ เงินสงเคราะห์ พร้อมเยี่ยมชมหน่วยบริการ และประชาชนผู้มาร่วมโครงการฯ จากนั้น ได้ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้สูงอายุในพื้นที่อำเภอคลองเขื่อน จำนวน 2 หลัง สำหรับจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้เป็นจังหวัด พอ.สว. […]
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดโครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย” ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ที่แปลงสาธิตเกษตรแบบผสมผสานในที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา ตำบลท่าไข่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้จัดพิธีเปิดโครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ พร้อมด้วย นายชลอ พงษ์ชุบ พัฒนาการจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โครงการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 220,000 บาท (สองแสนสองหมื่นบาทถ้วน) ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่ ตามแนวพระราชดำริและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายตามความต้องการ ส่งเสริมให้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อสร้างรายได้และลดรายจ่ายอย่างยั่งยืน กิจกรรมอบรมจัดขึ้นในพื้นที่แปลงสาธิตเกษตรแบบผสมผสานในที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา ตำบลท่าไข่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จัดอบรมระหว่างวันที่ 21–22 พฤษภาคม 2568 […]
เอ หมื่นศพ จิตอาสากู้ภัยชื่อดัง ร้องสื่อหลังลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย ร่างกาย

เมื่อเวลา 09.00 นวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นาย ปัฐติภาร บุญยี่ อายุ 46 ปี หรือที่รู้จักกันในนาม เอ หมื่นศพ จิตอาสากู้ภัยชื่อดัง ของพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา หลังลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นถึง6คนเข้ามาทำร้ายร่างกายพร้อมอัดคลิป ลงโซเชียล โดยในช่วงเช้าของวันนี้ได้พา ด.ช. เปียมรักษ์ บุญยี่ อายุ 12 ปี ลูกชาย เดินทางมาตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาล เพื่อนำใบ ตรวจร่างกาย ไปเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่สภ.บ่อวิน อำเภอศรีราชาจังหวัดชลบุรี เพื่อจะดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาทำร้ายลูกชายตนเองถึงที่บ้าน จากการสอบถามนาย ปัฐติภาร บุญยี่ พ่อของเด็ก เปิดเผยว่า เมื่อวานช่วงเวลา 20:00 น ได้มีพลเมืองดีขับรถมาบอกตนเองที่บริเวณตลาดว่าลูกชายตนเองนั้นถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายที่บริเวณ ห้องพัก หลังจากนั้นตนเองจึงรีบ วิ่งมาดูที่บ้านก็พบว่ากลุ่มวัยรุ่นไปแล้ว หลังจากการสอบถามลูกชายตนเอง โดยลูกชายตนเองบอกว่า ได้มีรุ่น พี่ คนนึงทักมาคุยกับตนเอง เป็นประจำ แต่ฝ่ายชายของรุ่นพี่คนนั้นที่เลิกกันแล้ว […]
ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทราเข้าร่วมประชุมและรับโล่และเกียรติบัตร

ดร.สุพจน์ ทองเหลือง ผู้อำนวยการ (วิทยฐานะเชี่ยวชาญ) วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา เข้าร่วมการประชุมและรับโล่และเกียรติบัตร รางวัล Monitoring Award โดยสำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยสำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา จัดการประชุมโครงการประชุมชี้แจงแนวปฏิบัติและสร้างความเข้าใจแก่เครือข่ายการติดตามและรายงานผลระดับสถานศึกษาและสถาบันการอาชีวศึกษา ครั้งที่ 4 ภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร โดยมีนายสกุลชัย ลัพกิตโร รองผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา เป็นประธานพิธีเปิดการประชุม พร้อมทั้งมอบโล่และเกียรติบัตรแก่สถานศึกษาและสถาบันการอาชีวศึกษา รางวัล Monitoring Award โดยมีนายกิตติพงษ์ อุตตมะเวทิน ผู้อำนวยการเทคนิคระยอง และผู้อำนวยการสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดระยอง กล่าวต้อนรับ นางสาวพัชรี คนใหญ่ หัวหน้ากลุ่มติดตามและรายงานผล 1 กล่าวรายงาน พร้อมด้วยตัวแทนสถานศึกษา และสถาบันการอาชีวศึกษาในพื้นที่ภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร จำนวน 142 คน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมโรงแรมแคนทารี เบย์ จังหวัดระยอง อาษา/ปรีญาภรณ์/ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
สุดล้ำ พาชม “เรือตัดน้ำแข็ง Xue long 2” ครั้งแรก ในน่านน้ำไทย ณ ท่าเรือสัตหีบ

พล.ร.ต.ธำรง สุพรรณพงศ์ ผอ.กทส.ฐท.สส. เป็นผู้แทน ฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมด้วย ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM ให้การต้อนรับ นายเสียว ชื่อหมิง ผู้บังคับการเรือ เสว่หลง 2 (Mr.XIAO ZHIMIN, Captain) และคณะลูกเรือ เนื่องในโอกาสเข้าเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568 และเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน ปี พ.ศ. 2568 พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชน ได้เข้าเยี่ยมชมเรือสำรวจขั้วโลก เสว่หลง 2 (Xue Long 2) ซึ่งได้จอดเทียบท่าที่ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ […]
จับจริง! ปราบน้ำมันเถื่อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติโชว์ผลปฏิบัติ 4 เดือน จับแล้วเกือบ 400 คดี

วันที่ (19 พฤษภาคม 2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ศปนม.ตร.) เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยในส่วนของการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง ศปนม.ตร. มีผลการดำเนินงานในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 เมษายน 2568 ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 4 มิติหลักอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ดังนี้
แม่ทัพ “ปุ๊” ลงพื้นที่ควบคุมและสั่งการจับกุม 2 เรือประมง อินโดนีเซีย

วันที่ 20 พ.ค.68 เวลา 10.00 น. พลเรือโทสุวัจ ดอนสกุล ผอ.ศรชล.ภาค 3 เดินทางไปยังท่าเทียบเรือทับละมุ ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อควบคุมและสั่งการดูแลความเรียบร้อย ในการจับกุมสอบสวนและดำเนินคดี การจับกุมเรือประมงอินโดนีเซีย จำนวน 2 ลำพร้อมผู้ต้องหา 18 คน ที่ลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทย บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของเกาะภูเก็ต ระยะประมาณ 80 ไมล์ ตามที่ได้รับรายงานการจับกุม 2 เรือประมงอินโดนีเซีย พร้อมผู้ต้องหา 18 คน ลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทย ไปก่อนหน้านี้นั้น ชุดปฏิบัติการของ ร.ล.ล่องลม ได้ควบคุมเรือประมงทั้ง 2 ลำกลับเข้าสู่ฝั่ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่ท่าเทียบเรือทับละมุ โดยคาดหมายจะเดินทางถึงท่าเรือเวลา 03.00 น ของวันที่ 20 พ.ค.68 แต่เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรงและสภาพของเรือประมงที่ถูกจับได้ทั้ง 2 ลำ ทำความเร็วได้น้อย จึงเดินทางมาถึงท่าเรือทับละมุ ช้ากว่ากำหนด […]
หลักสูตร 4 ส15 สถาบันพระปกเกล้า บุก 3 จังหวัดภาคกลาง ต่อยอดองค์ความรู้ เสริมสร้างมุมมองใหม่ในการจัดการความขัดแย้งอย่างสันติ

นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 15 (4ส15) จากสถาบันพระปกเกล้า ลงพื้นที่ศึกษาดูงานใน สามจังหวัดภาคกลาง ได้แก่ สมุทรสาคร เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเปลี่ยน “ห้องเรียน” ให้เป็น “สนามปฏิบัติ” ที่นักศึกษาสามารถเชื่อมโยงความรู้กับโลกความจริงได้อย่างลึกซึ้ง นายศุภณัฐ เพิ่มพูนวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล กล่าวว่า การดูงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้นักศึกษานำทฤษฎีไปพบกับสถานการณ์จริง แต่ยังเปิดโอกาสให้เกิด การแลกเปลี่ยนมุมมองจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และเพื่อนร่วมหลักสูตรที่มาจากภาคส่วนต่างกัน “เราไม่ได้เพียงเรียนรู้จากการฟัง แต่ได้เรียนรู้จากการฟังคนที่อยู่กับปัญหา ได้ลงพื้นที่กับเท้า ได้ใช้ใจสัมผัสเรื่องจริง แล้วเอากลับมาทบทวนในฐานะนักเรียนของสันติวิธี” – นายศุภณัฐ กล่าว เนื้อหาการดูงานครอบคลุมมิติความขัดแย้งที่สำคัญของสังคมไทย เช่น ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความขัดแย้งทางการเมือง การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม นักศึกษาตัวแทนจากภาครัฐ ย้ำว่า “สิ่งที่ได้จากการลงพื้นที่นั้นมากกว่าทฤษฎี เพราะช่วยให้เข้าใจความซับซ้อนของปัญหา และมองเห็นมุมใหม่ที่อาจไม่พบในห้องเรียน” ด้าน นักศึกษาจากภาคเอกชน เผยว่า “แม้จะอยู่ในสายธุรกิจ แต่สิ่งที่เรียนรู้สามารถนำมาปรับใช้ได้จริง ทั้งกับการบริหารคน การจัดการความขัดแย้งในองค์กร และความรับผิดชอบต่อสังคม” […]
ชาวบ้าน ร้องตรวจสอบนิคมจีน ถมกลบลำรางสาธารณะและลำคลอง

เมื่อเวลา17.00น.วันที่18 พ.ค.นายริน ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลสำทอง อำเภอเมืองจังหวัดระยอง ร้องเรียนว่าขณะนี้มีนายทุนจีนมาตั้งนิคมอุตสาหกรรมใช้เนื้อที่หลายพันไร่และมีการถมที่ดิน 2 ข้างถนนสูงหลายเมตรเชื่อว่าหากมีฝนตกมาจะทำให้น้ำที่ไหลมาอย่างแรงจะส่งผลให้ท่วมถนนแน่นอนหน้าเดิมบริเวณดังกล่าวเป็นท้องนาและเป็นเนินเขาส่วนมากมวลน้ำจะมาแรงขนาดนี้พื้นที่บริเวณเก่าถูกปรับถมดินไปเรียบร้อยแล้วซึ่งการถมครั้งนี้ผู้รับเหมาได้ปรับหน้าดินแล้วย้ายคลองน้ำใสซึ่งเป็นของเก่าแก่ของชาวบ้านมานานถูกกลุ่มนายทุนจีนที่ตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรมยาง ถมกลบลำรางสาธารณะและคลองที่ผ่านในนิคมหายไป โดยการปิดลำคลองแล้วขุดรางวางท่อเปลี่ยนเส้นทางน้ำใหม่เชื่อว่าไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาน้ำได้หากมีฝนตกจะทำให้น้ำท่วมบนถนนทันทีสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านแน่นอนที่สำคัญทางน้ำสาธารณะและลำคลองนั้นหายไปชาวบ้านอยากทราบว่ามีการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วหรือยังอยากให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ ยังมีชาวบ้านแจ้งเบาะแสอีกว่านิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวหรือยังลุกที่ดินสาธารณะประโยชน์อีก 3 เส้นในบริเวณพื้นที่ซึ่งเป็นทางสาธารณะประโยชน์ขณะนี้ไม่สามารถใช้การได้เนื่องจากมีการปรับพื้นที่เป็นพื้นเดียวกันและมีการสร้างโรงงานเต็มพื้นที่จึงยังไม่ทราบว่าจุดไหนเป็นทางสาธารณะกันแน่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวมีการสร้างนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีโรงงานจีนเข้ามาในพื้นที่และมีชาวจีนเข้ามาพักอาศัยในพื้นที่เป็นจำนวนมากมาเป็นทั้งคนงานก่อสร้างโรงงานและวิศวกรโดยยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบว่าเข้ามาทำงานถูกต้องหรือไม่อย่างไร ภาพ/ข่าว ราชัญ กองทอง ผู้สื่อข่าว จ.ระยอง